โชคดีที่มีกัน

พลันที่การประชุมใหญ่ประจำปี 2564 ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ต้องถูกประกาศเลื่อนออกไป อันสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในรอบล่าสุดซึ่งแรงและเร็วจนทะลุทะลวงทุกด่าน

การเคลียร์ปัญหาเรื่องส่วนแบ่งเงินลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดของฟุตบอลไทย ที่ยังคาราคาซังกันอยู่นั้น ย่อมจะต้องล่าช้าออกไปอีก

คงไม่ต้องบอกถึงความเดือดร้อนของสโมสรสมาชิกที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหลายว่าจะสาหัสขนาดไหน และแบกรับภาระมานมนานแล้ว

โดยเงินสนับสนุนไทยลีก ในฤดูกาล 2020 ที่จบไปแล้ว ตัวเลขที่มีการเปิดเผยออกมา จ่ายให้สโมสรไปแค่งวดแรกเท่านั้น ตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ.ปีที่แล้ว ปี 2563 โดยทีมในไทยลีก 1 ได้สโมสร ละ 5 ล้านบาท จาก 20 ล้านบาท, ไทยลีก 2 ได้ไปสโมสรละ 7.5 แสนบาท จาก 3 ล้านบาท และไทยลีก 3-4 ได้สโมสรละ 2.5 แสนบาท จาก 1 ล้านบาท

ล่าสุด นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ท่านก็ได้ออกมาระบุว่าการเลื่อนประชุมไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการจัดสรรเงินลิขสิทธิ์ เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เนื่องจากการประชุมคุยกันเรื่องงบดุลประจำปีเท่านั้น

แต่ประเด็นสำคัญ “บิ๊กอ๊อด” ระบุไว้ชัดเจนว่า ตอนนี้ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าแต่ละสโมสรจะได้เท่าไหร่ และเมื่อไหร่ บริษัทที่รับผิดชอบก็ยังไม่ได้แจ้งว่ารับเงินจากสปอนเซอร์มาเท่าไหร่ สถานการณ์ตอนนี้ไม่มีใครคาดหวัง หรือคำนวณอะไรได้

ถ้าจำกันได้ก่อนหน้านี้มีการแถลงข่าวใหญ่โตถึงเม็ดเงินลิขสิทธิ์ที่เซ็นกันมากมายมหาศาลและเซ็นกันยาว 8 ปี เป็นสถิติที่ไม่เคยมีมาก่อนในวงการลูกหนังไทย ก็ไม่รู้ว่ามีข้อตกลง หรือสัญญาที่ทำกันไว้ มีหลักประกันอะไรในยามวิกฤติหรือไม่

สโมสรสมาชิกเองนั้นก็รู้กันอยู่เต็มอกว่าเมื่อเกิดวิกฤติยากที่จะได้เท่าเดิม แต่สโมสรต่างๆก็ยังคงก้มหน้ารับอย่างเข้าใจ และสนับสนุนการทำงานของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯต่อไปด้วยความเรียบร้อย และร่วมมือยิ่ง

จนมาวันนี้ทุกอย่างเป็นจริง และดูจะหนักกว่าที่คาดไว้แต่เดิม อีกทั้งยังมองไม่เห็นอนาคตว่าจะมีความชัดเจนอย่างไร เมื่อไหร่ ก็น่าแปลกใจ ปนดีใจแทนสมาคม เมื่อปัญหาเกิด และมาถึงจริง สโมสรสมาชิกต่างๆก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาเชิงลบ หรือแสดงอะไรออกมาให้เห็นมากมายนัก

คงจะสะท้อนถึงการยอมรับ รับรู้ รับทราบ และเห็นอกเห็นใจสมาคมกีฬาฟุตบอลฯที่บริหารจัดการมาได้อย่างดี ตั้งแต่ยังไม่มีวิกฤติจนมาถึงปัจจุบัน

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเรื่องยิบย่อยกว่านี้เยอะยังด่ากันระงม

ต้องยกนิ้วให้ในหัวจิตหัวใจของสโมสรต่างๆ นับเป็นโชคของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่มีสโมสรสมาชิก อันเป็นผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งโดยตรงสนับสนุนการทำงานของสมาคมอย่างล้นกำลัง ไม่แปลกใจที่ท่านได้คะแนนถล่มทลาย ทำอะไรก็ได้

ร่วมมือกันมาแล้วก็ต้องร่วมมือกันต่อไป คิดอย่างนั้นก็อยู่กันได้อย่างสบายใจดี มุ่งมั่นปรับทีม ซื้อตัวใหม่ เตรียมเตะฤดูกาลหน้ากันต่อไปครับ...

“เบี้ยหงาย”