ไทยรัฐออนไลน์
นับตั้งแต่มีการแข่งขันฟุตบอล ไทยแลนด์ อะเมเจอร์ ลีก ขึ้น ก็มีหลายสโมสรที่ได้พัฒนาทีม จากการเป็นสโมสรในระดับสมัครเล่น ขึ้นมาสู่การเป็นสโมสรในระดับอาชีพเต็มตัว
"สิงห์ระฆังทอง" กาญจนบุรี เอฟซี เป็นหนึ่งในสโมสรที่เพิ่งจะขึ้นมาสู่การแข่งขันในระดับลีกอาชีพเป็นปีแรก จากการคว้ารองแชมป์โซนตะวันตก ศึกไทยแลนด์ อะเมเจอร์ ลีก เมื่อปีก่อน และมีผลงานที่ดีในไทยลีก 3 ฤดูกาลนี้
และในมุมมองของ คุณสุดใจ สอนใจ รองประธานทัพนักรบตะวันตกแล้ว การพาทีมมาสู่การแข่งขันอาชีพ ทำให้เขาเห็นความแตกต่างอะไรบ้าง, ความแตกต่างระหว่างระดับอาชีพและสมัครเล่นเป็นอย่างไร, แนวทางการทำทีมของพวกเขาเป็นแบบไหน เราจะมาทราบคำตอบพร้อมกันที่นี่
ความต่างของลีกอาชีพกับสมัครเล่น
นับตั้งแต่แข่งอะเมเจอร์ ลีก ช่วงแรก จนได้ขึ้นมาแข่งระดับอาชีพจริงๆ มันต่างกันเยอะ ตอนที่เราเล่นอะเมเจอร์ลีก มันยังไม่ใช่ระดับอาชีพ การบริหารงานเป็นระบบเล็กๆ แต่เมื่อมาถึงการแข่งขันระดับอาชีพ มันต้องมีการวางแผนงาน มันมีความเป็นธุรกิจครับ ทีมงานเราต้องพร้อม เราต้องมีสนามของตัวเอง การสรรหานักกีฬาต้องทำเป็นระบบ เราต้องมีการจ่ายเงินเดือนให้ มีสถานที่ซ้อม มีสนามแข่งขันให้เป็นกิจจะลักษณะครับ
การเริ่มต้นทำเรื่องใบอนุญาตสโมสร (Club Licensing)
สโมสรของเราเนี่ย ได้รับความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่าย ทั้งจากข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ที่มาร่วมมือกัน พอเรารู้ตัวว่าต้องขึ้นไปแข่งขันในลีกอาชีพ อย่างเรื่องสนาม เราก็มองหาสนามที่เราต้องการ เราติดต่อหาสถานที่ ทำสัญญา เพื่อเพิ่มความเป็นมาตรฐานตาม Club Licensing เพื่อเพิ่มความมั่นใจแก่ไทยลีก พร้อมให้เกิดการตรวจสอบเรื่องระบบด้วย
อุปสรรคในการทำทีม
สำหรับสโมสรผม ไม่ครับ เนื่องจากว่าเรามีการเตรียมความพร้อม อย่างสนามแข่งขัน แล้วก็เตรียมไว้แล้ว แต่สำหรับทีมอื่นๆ ที่ไม่มีสนามเป็นของตัวเอง พวกเขาก็อาจเจอปัญหา เพราะอาจได้สนามไม่มีมาตรฐานตามกำหนดไว้ แต่สำหรับเรา เราไม่มีปัญหา เราเองมีที่ปรึกษา เรามีรองผู้ว่าราชการ มีเทศบาลเข้ามาช่วยเหลือ เรื่องนี้เลยง่ายขึ้นสำหรับเรา และมีนายทุนมาให้การสนับสนุนด้วย ทำให้เราเจอปัญหาน้อยลง
เป้าหมายการขึ้นไปแข่งขันใน โตโยต้า ไทยลีก
กับเรื่องนี้ เราคิดอยู่แล้วครับ ทุกคนคิด แต่เราก็ค่อยเป็นค่อยไป เราเพิ่งขึ้นจากอะเมเจอร์ ลีก 80 เปอร์เซ็นต์ของนักเตะเราในตอนนี้ก็มาจากอะเมเจอร์ ลีก เราก็มีการหานักเตะในตำแหน่งที่มันขาด และเสริมนักเตะเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทีม จริงๆ ผู้ใหญ่ของเราตั้งเป้าไว้ว่าจะอยู่ในไทยลีก 3 สัก 2-3 ปี เราก็จะมองไปที่การเล่นในไทยลีก 2 และถ้ามีโอกาสเป็นไปได้ เราก็อยากจะขึ้นไปถึงไทยลีก
ความสุขในการพาทีมขึ้นมาเล่นในระดับอาชีพได้สำเร็จ
เรามีความสุขมากกับเรื่องนี้ มันสมเกียรติการทำทีมของเรา เราทำมาตั้งแต่ระดับรากหญ้า จนมาเล่นในไทยลีก 3 มาตรงนี้เราก็รู้ว่าระบบต่างๆ มันยากขึ้น ระบบการทำงานของเราต้องเป็นมืออาชีพ ทุกฝ่ายต้องมีความพร้อม และร่วมมือกันทำให้ได้ตามกฎของไทยลีก
เราเองยังต้องรักษามาตรฐานในการเล่นด้วย สมมติว่าปีนี้เราอยากอยู่ในท็อป 5 ของตารางคะแนน ที่ผ่านมาเราก็ยังอยู่ในอันดับตรงนี้ ผู้ใหญ่ในทีมของเรา ประธานสโมสรเราก็พอใจในตรงนี้ จากการที่นักกีฬาส่วนใหญ่ของเราขึ้นมาจากอะเมเจอร์ ลีก
ข้อคิดถึงทีมสมัครเล่นทีมอื่น ที่อยากก้าวมาสู่ระดับอาชีพ
การเล่นไทยแลนด์ อะเมเจอร์ ลีก ถือเป็นการเตรียมทีมที่ดี แต่เราต้องทำแบบมีระบบ อย่างไปคิดว่าปีสองปีเราต้องเลื่อนชั้น เราต้องดูมาตรฐานทีมว่าอยู่ตรงไหน แล้วถ้าเราขึ้นมา เราจะเอาตรงไหนเป็นสนามเหย้าของเรา เราต้องหาที่ ทีมบริหารก็ต้องเตรียมตัว ที่สำคัญคือเรื่องเงิน เราต้องดูว่าเราจะเอาใครเป็นผู้สนับสนุนเรา ไม่ใช่ว่าขึ้นชั้นมา เราไม่มีผู้สนับสนุนที่จริงจัง เล่นได้ปีเดียวก็ตกลงไป หรืออาจมีปัญหากับไทยลีก อาจแข่งไม่จบฤดูกาล ผมอยากให้ทุกทีมตั้งความหวังในการเลื่อนชั้นมา แต่อยากให้ดูผู้สนับสนุนที่มีมาตรฐาน มีการทำสัญญากันให้ดีครับ