บี บางปะกง
ผมได้รับเมลจาก “พี่ฉ่อย” ยุทธนา ทวีสรรพสุข กูรูลูกหนังไทยตัวจริง เสียงจริง ของวงการ เขียนมาเล่าถึงเส้นทางชีวิตในแวดวงลูกหนังและความฝันของตัวเอง
ที่อยากจะเห็นบอลไทยมีศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ เพื่อพัฒนานักเตะเยาวชนอย่างจริงจัง (เสียที)
ลองอ่านกันดูครับ น่าจะได้มุมมองอะไรดีๆ ไปบ้าง...
ไม่มากก็น้อย!!!
OOOOOOOO
เมื่อคืนได้ฟังรายการของ “บี บางปะกง” คุยกับคนบ้าบอล อย่าง “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล
ซึ่งชีวิตของผมคงไม่ได้แตกต่างกับพี่เฮงมากนัก อาจแตกต่างตรงที่พี่เฮงเป็นนักฟุตบอลทีมชาติที่เก่ง แต่ผมเป็นลูกพ่อค้าที่มาชอบฟุตบอล
ชีวิตในวัยเด็กตอน 16-17 ปี ได้ส่งบอลเด็กเข้าร่วมการแข่งขันรายการต่างๆแถวๆฝั่งธน
ตอนนั้นก็มีตัวดังๆ เช่น ภาคภูมิ นพรัตน์, สุรชัย แซ่เล้า, วัฒนา โภชนะคง, สะสม พบประเสริฐ ฯลฯ ชนะบ้างแพ้บ้างเป็นเรื่องธรรมดา
ตระเวนแข่งจนมาเจอทีมสิงห์สุมาลีของป๋าสุชาติ สิงห์สุมาลี ที่มี “น้าติ๊ก” สมชาติ ยิ้มศิริ เป็นโค้ช ซึ่งวันนั้นทีมของเราได้ที่ 3 นั่นเป็นการหักเหของชีวิตของผมที่ได้มาทำเยาวชนทีมชาติกับน้าติ๊กในเวลาต่อมา
ชีวิตผกผัน เมื่อผมเรียนจบได้กลับมาค้าขาย แต่ในที่สุดก็ต้องกลับมาทำฟุตบอลอีกครั้ง เมื่อได้รับโทรศัพท์จากน้าติ๊ก ซึ่งตอนนั้นผมทำงานเป็นอาจารย์สอนบัญชีและพิมพ์ดีดที่โรงเรียนพาณิชยการกรุงเทพ
น้าติ๊กโทร.มาที่โรงเรียนว่าน้าตามตัวอยากจะให้ผมมาช่วยทำฟุตบอลทีมชาติ อายุ 16 ปี โดยนักฟุตบอลดังๆในรุ่นนั้น มีทั้ง “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ชูเกียรติ หนูสลุง, พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธ์, สราวุธ คำบัว ฯลฯ
หลังจากนั้นผมได้มาทำงานที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย โดยในยุคนั้นมีนักฟุตบอลดังๆมากมาย มีโค้ชชื่อ เชิดศักดิ์ ชัยบุตร มี “น้าต๋อง” นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ เป็นประธานเทคนิค
ตอนนั้นก็ได้อยู่ในทีมชุดใหญ่ของการท่าเรือ มีหน้าที่เป็นแมวมองและเป็นคนส่งเอกสารให้สปอนเซอร์ต่างๆ ชีวิตก็ต้องเปลี่ยนอีก เมื่อน้าติ๊กเดินมาบอกว่าน้าจะไปทำทีมฟุตบอลสินธนาจะไปกับน้ามั้ย
ซึ่งตอนนั้นได้ปฏิเสธไป แต่สุดท้ายก็ต้องตามน้าติ๊กไปเพราะบุญคุณมากกว่า
สุดท้ายผมก็ได้ไปสร้างสินธนาให้เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ แต่ด้วยวิกฤติปี 40 ทำให้ทีมขาดสภาพคล่อง ซึ่งอยู่กับสินธนาผมไม่ได้เงินเดือนจากสโมสรเลย
แต่วันที่สินธนาได้แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกได้รับคำชมเชยจาก พี่มนตรี สุวรรณน้อย
พี่มนตรีกระโดดขึ้นมาบนอัฒจันทร์และกอดผม และกล่าวขอบคุณผมว่า “พี่รู้นะใครสร้างทีมให้พี่ พี่ขอบใจฉ่อยมาก ถ้าไม่มีฉ่อย สินธนา ไม่มีวันนี้”
นี่คือความประทับใจที่สุดตั้งแต่ผมทำฟุตบอลมา (อ่านต่อตอนหน้า)
บี บางปะกง