จับเข่าถก "โค้ชโต" นิพนธ์ มาลานนท์ เกี่ยวกับอนาคตจอมหนึบไทย

• "มหาโต" ชี้โควตาอาเซียน ไม่สามารถทำอะไรจอมหนึบไทยได้ หากมีฝีมือที่เจ๋งจริง และฟอร์มการเล่นคงเส้นคงวาคุ้มค่าจ้าง
• การนำเข้าโค้ชผู้รักษาประตูต่างชาติ ไม่การันตีการยกระดับจอมหนึบไทย เพราะโค้ชไทยเองก็มีฝีมือเช่นกัน แต่ขาดแค่โอกาสเท่านั้น
• "โค้ชโต" ชี้ชัด สมาคมฯ ต้องเริ่มจัดทีมงานสเกาต์เพื่อเก็บข้อมูลนายทวารรุ่นจิ๋ว หวังต่อยอดสู่ทีมชาติไทยในอนาคต

หลังจากที่ทีมข่าวไทยรัฐสปอร์ต ได้จับเข่าคุยกับ “มหาโต” นิพนธ์ มาลานนท์ ถึงเส้นทางการทำงานโค้ชผู้รักษาประตู และการปั้นเยาวชนรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นจอมหนึบที่มีคุณภาพของทีมชาติไทยในอนาคตแล้ว

วันนี้ เราไปฟังบทวิเคราะห์เจาะลึกในมุมมองของ “โค้ชโต” ที่ได้สัมผัสกับผู้รักษาประตูในศึกไทยลีกมาหลายราย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

และในมุมมองของอดีตโค้ชจอมหนึบทีมชาติไทย คิดเห็นอย่างไร กับการทะลักเข้ามาของนายด่านโควตาอาเซียน รวมถึงการยกระดับผู้รักษาประตูไทยอย่างไร จึงจะได้รับการยอมรับในระดับอินเตอร์ และถูกดึงตัวไปเฝ้าเสาสร้างชื่อเสียงในต่างแดน

เจาะลึกมุมมอง “โควตาอาเซียน” ดาบสองคมของจอมหนึบสัญชาติไทย 

หลังจากที่ บ.ไทยลีก และสมาคมฟุตบอลฯ เปิดไฟเขียวให้ผู้เล่นจากชาติในอาเซียน เข้ามาค้าแข้งบนลีกเมืองไทยได้แบบไร้โควตา ทำให้มีจอมหนึบฝีมือดี ถูกซื้อตัวเข้ามาหลายราย ไม่ว่าจะเป็น ฮัสซัน ซันนี, ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด, อิซวาน มาห์บูด, แพทริก เดย์โต รวมถึง ดัง วาน ลัม

แต่อย่างไรก็ตาม “มหาโต” เชื่อว่า นั่นไม่ใช่ข้ออ้างสำหรับผู้รักษาประตูไทยหลายราย เพราะถ้าคุณเจ๋งจริง ฝีมือดี และเหนือกว่าจอมหนึบต่างชาติอย่างชัดเจน ก็คงไม่ต้องกลัวผู้เล่นชาติอื่นมาแย่งงาน

“ในเรื่องนี้ผมมองเป็นสองแง่ อย่างแรกคือ ผู้รักษาประตูของไทย อาจไม่ได้รับความไว้วางใจเท่าที่ควร แต่ถ้ามองในแง่กลับกัน มันจะทำให้ผู้รักษาประตูไทยมีความตื่นตัวมากขึ้นกว่าเดิม”

“ทุกอาชีพต้องแข่งขันกันหมด นักเตะไทยต้องคิดว่า คุณจะทำยังไงให้สโมสรจ้างคุณ โดยที่ไม่ต้องไปเซ็นสัญญากับผู้เล่นต่างชาติ ดังนั้นต้องโชว์ฟอร์มให้ดี เข้าตาโค้ชให้มากที่สุด ไม่ใช่เอาแต่บ่นคนอื่น”

“คุณต้องหันกลับมามองตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ต้องอดทน เรียนรู้ ไปหาโค้ชหรือใครก็ได้ เพื่อขอคำปรึกษาว่าทำอย่างไรจึงจะยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมให้ได้”

“โค้ชโต” ชี้ชัด ข้อแตกต่างระหว่างจอมหนีบ “ไทย” กับต่างชาติ

ในฐานะที่เคยทำงานโค้ชกับทีมชั้นนำเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น แบงค็อก ยูไนเต็ด, เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี รวมถึง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทำให้ได้ร่วมงานกับจอมหนึบมากหน้าหลายตา ทั้งไทยและต่างชาติ

ดังนั้น “โค้ชโต” นิพนธ์ จึงชี้ให้เห็นภาพได้ทันทีว่า “วินัย” และ “ความเป็นมืออาชีพ” คือความแตกต่างอย่างชัดเจนของจอมหนึบไทยและชาวต่างชาติ

“ผมเคยร่วมงานกับผู้รักษาประตูต่างชาติ ทั้ง มุนเซ อุลริช (ท่าเรือ) กับ อองโตแนง ทริสเลส ที่แบงค็อก ยูไนเต็ด ซึ่งก็ได้รางวัลยอดเยี่ยมของลีกวัน (ไทยลีก 2) ด้วย”

“ในตอนแรกผมก็กลัวนะ เพราะไม่รู้ว่าจะยังไง แต่ มุนเซ กลับชอบเรา เพราะเขาติดตามผลงานเรา และรู้ว่าเคยเป็นคนสร้าง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ส่วน อองโตแนง ที่มาจากฝรั่งเศส ก็จะเป็นอีกสไตล์นึง ในตอนแรกเขาก็ไม่ค่อยเชื่อผมเท่าไร แต่พอมาเลกสองผมส่งข้อมูลให้กับเขาวิเคราะห์การเล่นให้ จนเขาได้รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของลีก” 

“มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะทำยังไงเพื่อให้ผู้รักษาประตูเชื่อมั่นในตัวคุณ นี่คือสิ่งสำคัญที่โค้ชรุ่นใหม่ต้องพยายามเรียนรู้ ไม่ว่าโปรแกรมจะเป็นยังไง แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องพยายามถ่ายทอดให้เขาเข้าใจมากที่สุด แบบฝึกมีเยอะมากในยูทูบ แต่เวลาคุณเอามาใช้แล้ว เขาเข้าใจที่คุณจะสื่อสารหรือเปล่า”

“เท่าที่ผมเคยสัมผัสมา คนไทยและต่างชาติมีความต่างกันค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในเรื่องโภชนาการ อาหาร และการดูแลเอาใจใส่ตัวเอง มีความเป็นมืออาชีพค่อนข้างสูง ไม่มีไปเที่ยวกลางคืน หรือไปทำอะไรที่มันส่งผลเสียกับสภาพร่างกาย เขาจะโฟกัสกับผลงานในสนามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น”

“โค้ชต่างชาติ” ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการยกระดับจอมหนึบไทย

ในฐานะที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน “มหาโต” ชี้ว่า การนำเข้าโค้ชชาวตางชาติไม่ใช่ตัวช่วยในการพัฒนาเยาวชนไทยเสมอไป เพราะโค้ชชาวไทยก็เก่งไม่แพ้กัน แต่อยู่ที่ว่าสโมสรกล้าให้โอกาสคนไทยด้วยกันหรือเปล่า

“เรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับตัวนักเตะและโค้ชด้วย สิ่งสำคัญคือ โค้ชจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ผู้รักษาประตูคนนั้นเก่งขึ้นมาได้ วิเคราะห์ข้อมูลคู่แข่งในแต่ละเกมอย่างไร ใครจะเก็บรายละเอียดได้มากแค่ไหน”

“อย่างเรื่องจุดโทษผมเก็บมาหมด ไม่ว่ากองหน้าคนนั้นจะเคยเล่นอยู่ที่ไหนบ้าง ก่อนย้ายมาอยู่เมืองไทย ผมจะพยายามไปหามาให้ได้มากที่สุด ชอบยิงมุมไหน ยิงอย่างไร เราต้องวิเคราะห์ให้หมด”

“ส่วนการจ้างโค้ชต่างชาติไม่จำเป็นหรอก ดูง่ายๆ อย่างฟุตบอลอุ่นเครื่องหลายๆ ครั้ง ทำไมทีมที่มีโค้ชประตูเป็นคนไทยถึงเอาชนะทีมที่มีโค้ชต่างชาติล่ะ? นี่คือคำตอบที่ง่ายที่สุด สิ่งสำคัญคือสโมสรต้องให้โอกาสโค้ชไทยด้วยกันเอง”

เร่งเก็บข้อมูลจอมหนึบรุ่นจิ๋ว เพื่อต่อยอดสู่ทีมชาติไทยในอนาคต

สุดท้าย “มหาโต” นิพนธ์ มาลานนท์ ชี้ว่า การสร้างจอมหนึบรุ่นใหม่เพื่อก้าวขึ้นมาสานต่องานพี่ๆ ในแคมป์ช้างศึก สมาคมฟุตบอลฯ ควรมีทีมแมวมองคอยเก็บข้อมูลนักเตะทุกรุ่นอายุ เพื่อนำไปต่อยอดพัฒนาอย่างมีระบบ

“เรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับว่าสมาคมฯ จะสร้างผู้เล่นหน้าใหม่ขึ้นมาได้ขนาดไหน การบริหารจัดการคือสิ่งสำคัญ”

“โค้ชผู้รักษาประตูจากชุดเล็กต้องเริ่มสเกาต์ว่าใครมีแววดี ตั้งแต่การสั่งเพื่อนร่วมทีม การเล่นลูกด้วยเท้า การอ่านเกม การยืนตำแหน่ง ต้องเริ่มมีทีมเก็บข้อมูลทุกชุด เผื่อเด็กคนไหนมีแวว แล้วค่อยๆ นำเข้ามาพัฒนาขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในอนาคต”.

เรื่อง : สุภาพบุรุษพุงตึง

กราฟิก : Sathit Chuephannga

ภาพ : เอกลักษณ์ ไม่น้อย