บี บางปะกง
เมื่อจังหวัดระยองเกิดปัญหาที่ทหารระดับวีไอพีติดเชื้อโควิด ออกมาเดินท่องเที่ยวในเมือง
ศบค.ก็เกิดร้อนตัว รีบออกมา รับผิดชอบทุกอย่าง
ถึงแม้กระทั่งกล้าตัดสินใจ จัดการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษเพื่อ กระตุ้นการท่องเที่ยวในต้นเดือน ส.ค.63 นี้เลย
โดยกล้าหาญแบบที่ให้คนดูเข้าชมได้แบบจำกัดจำนวน 2,000 คน
แต่ทำไมๆสมาคมฟุตบอลฯไม่ยักจะรีบเร่ง จัดการแข่งขันลีกอาชีพของประเทศไทยให้กลับมาเตะได้โดยเร็ววัน
รู้ทั้งรู้ว่าทางทรูวิชั่นส์ก็ต้องถ่ายทอดให้จบในปีนี้
สโมสรสมาชิกก็ต้องการเงินสนับสนุนแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย
การที่ ศบค.จัดแข่งฟุตบอลที่ จ.ระยอง นั้น ก็แสดงว่าฟุตบอลให้แข่งขันได้แล้ว
แต่ทางสมาคมไม่คิดเห็นความสำคัญใดๆ เลย ไม่มีวิสัยทัศน์ในเรื่องฟุตบอลเลย
ฟุตบอลจะสำเร็จได้นั้น มันต้องชิงความได้เปรียบให้มากที่สุด
ทุกประเทศทั่วโลกชิงความได้เปรียบกัน
โดยขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน
เพราะเขาเห็นถึงความได้เปรียบที่จะนำประเทศของเขาประสบความสำเร็จไง แม้จะใช้งบประมาณมหาศาลก็ยอม
ทุกประเทศทั่วโลกเจอปัญหาโควิด–19 กันทั้งนั้น แต่เขาพยายามที่จะกลับมาให้เร็วที่สุด
เพื่อชิงความได้เปรียบ
เตะก่อน แข่งขันก่อน สภาพทีมชาติมันก็พร้อมก่อนประเทศอื่น โอกาสที่จะประสบความสำเร็จ มันก็มากกว่า
อย่างประเทศเวียดนาม เขาก็พยายามกลับมา ให้เร็วที่สุด และเขาก็ทำได้ เตะแบบเปิดด้วยซ้ำไป
และลีกทั่วโลกที่มีคนติดเชื้อโรคมากกว่าหลายเท่า ก็กลับมาหมดแล้ว แต่ทำไมประเทศไทย ถึงแช่แข็งฟุตบอลของตัวเอง
เราหยุด ไม่ใช่เราอยู่กับที่นะ แต่เรากำลังถอยหลัง เพราะที่อื่นเขาเดินไปข้างหน้ากันหมดแล้ว
ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกก็กำลังจะมาถึง เวียดนามโกยคะแนนนำเราไปแล้ว 3 คะแนน (ถูกไหม?) และเขาก็เตรียมทีมกันไปเป็นเดือนแล้ว
แต่ทีมชาติไทย ฟุตบอลไม่รู้จะเตะเมื่อไหร่เลย
แบบนี้เมื่อผลการคัดเลือกฟุตบอลโลก ถ้าเราตกรอบอีกอย่าไปโทษโค้ช หรือนักเตะอีกต่อไปนะครับ
แต่ต้องโทษวิสัยทัศน์ผู้นำองค์กรของเราแบบ 100% เลยนะ ที่ไม่เคยที่จะต่อสู้เพื่อได้มาซึ่งความได้เปรียบกว่าประเทศอื่น
ไม่เคยที่เป็นผู้นำที่จะคิดก่อน ทำก่อน ชิงความได้เปรียบก่อน
คิดแต่จะเดินตามหลัง ให้ประเทศอื่นๆทำก่อน ไปก่อน แล้วเราค่อยเดินตามเขาไป
จริงๆแล้ว ถ้าผู้นำมีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลนั้น จะต้องต่อสู้ที่ให้ฟุตบอลอาชีพกลับมาเตะตั้งแต่ ศบค. เปิดเฟส 3 ให้ฟุตบอลแข่งขันได้แล้ว
เช่น ทำเหมือน จ.ระยอง นั่นแหละ ทดลองเตะ (นัดพิเศษ) ทางภาคเหนือ 1 คู่ ทางใต้ 1 คู่ ทางอีสาน 1 คู่ และกรุงเทพฯ 1 คู่ โดยเตะแบบปิด
หลังจากนั้น 14 วันก็ทดลองอีกครั้ง แต่เอาทีมใหม่มาเตะตามภาคต่างๆ แล้วก็ประเมินผล ทำแบบนี้อีกครั้ง
เมื่อมันไม่มีการแพร่เชื้อเกิดขึ้น กลางเดือนมิถุนายน 63 หรือต้นเดือน ก.ค.63 ก็เริ่มเตะได้แล้ว อาจจะมีคนดูแบบมีระยะห่างได้ด้วยซ้ำไป
ปัญหาเรื่องต่างๆก็จบ สมาชิกสโมสรก็ได้เดิน ต่อไปได้
คิดที่จะนำหน้าคนอื่นเขาบ้าง อย่าเดินตาม หลังคนอื่นตลอด ความสำเร็จมันจะไม่เกิดขึ้นนะ
ความหวังจะไปฟุตบอลโลก
ต้องดูวิสัยทัศน์ผู้นำองค์กรก่อน...อันดับแรก
สมบัติ ลีกำเนิดไทย
OOOOOOO
ปัญหาระหว่างทรูวิชั่นส์กับสมาคมลูกหนังไทยมันจบไปแล้วล่ะครับ
ต่อไปนี้วงการฟุตบอลบ้านเราต้องช่วยตัวเอง ลูกเดียว
จะหวังพึ่ง “วิสัยทัศน์” ผู้นำองค์กร ก็คิดช้า ทำช้า ซะเหลือเกิน
สโลแกน “Moving forward” ของท่าน
ยังใช้ได้หรือเปล่า...ก็ไม่รู้!!!
บี บางปะกง