หน้าแรกแกลเลอรี่

เรียงหน้าชน : หวังลมๆแล้งๆ

โจโจ้

3 พ.ย. 2562 05:01 น.

ยังช็อกไม่หายกรณี “พลังเพลิง” สโมสรพีทีที ระยอง ที่จะขอพักทีมในฤดูกาลหน้า 2020 ทั้งที่ผลงานใน ฤดูกาล 2019 ถือว่าดีในระดับหนึ่งจบลงด้วยอันดับ 11 ของตาราง

ผิดกับอีก 3 ทีม สุพรรณบุรี เอฟซี, “นกใหญ่พิฆาต” ชัยนาท ฮอร์นบิล และ “พยัคฆ์ล้านนา” เชียงใหม่ ที่ต้องกระเด็นตกชั้นลงไปเล่นลีก 2 ในฤดูกาลหน้า

แต่เอาเถอะเมื่อตัดสินใจไปแบบนี้ก็ส่งผลให้สุพรรณบุรีที่ร่วงตกชั้นไปแล้ว กลายเป็นถูกรางวัลก้อนโตทันที ได้ต่อลมหายใจกลับขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดได้อีกครั้ง

ต้องยอมรับว่าการขอพักทีมของ “พลังเพลิง” ส่งผลกระทบหลายอย่างทั้งการตกงานของนักเตะทั้งทีม คนในท้องถิ่นที่เคยมีรายได้จากการขายของในช่วงแข่งขันต้องน้ำตาตกในช้ำใจ เพราะการพักทีมครั้งนี้ ที่สำคัญที่สุดคือทำให้บรรดาแฟนคลับเสียความรู้สึกกับทีมที่รักและผูกพันมานานกว่า 30 ปี

จุดนี้ถือว่าสำคัญอย่างมากเพราะการสร้างทีมให้เป็นที่ยอมรับจนเกิดกระแสแฟนคลับนิยมไม่ใช่ทำกันง่ายๆ เพียงแค่วันเดียว แต่ต้องใช้เวลานานเพื่อพิสูจน์ให้รู้ว่าทีมของตัวเองมีสิ่งที่น่าเชียร์มากน้อยแค่ไหน

ยิ่งจังหวัดระยองมี 2 ทีมด้วยแล้ว การพิสูจน์ด้วยผลงานจนสามารถเรียกศรัทธาจากแฟนบอลได้ถือเป็นสิ่งที่วิเศษและมีความหมายต่อทีมอย่างมากในการปลุกพลังความฮึกเหิมเวลาที่ลงสนามในแต่ละนัด

โดยเฉพาะเวลาที่ลงเตะในบ้านตัวเองเสียงเชียร์จะเป็นตัวข่มขวัญกำลังใจคู่ต่อสู้ได้เป็นอย่างดี

การขอพักทีมของ “พลังเพลิง” ครั้งนี้ถือว่าเป็นการช็อกในวงการลูกหนังเมืองไทย เพราะถ้าผลงานไม่ดีไม่มีแฟนคลับหรือตกชั้นไปอยู่ในลีกต่ำสุดคงไม่เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์โดยเฉพาะในโลกโซเชียลมากขนาดนี้

แต่นี่ผลงานก็ดีดันขอพักทีมโดยให้เหตุผลที่ว่า “ไม่ใช่งานถนัด” ฟังอย่างไรก็ไม่ขึ้น เพราะคำว่าไม่ถนัดทำไมถึงทนมาได้นาน “กว่า 30 ปี”

เอ! หรือว่ามีอะไรที่แอบแฝง หรือมีคำสั่งของใครหรือเปล่า เพราะเมื่อหลายปีก็เคยมีกระแสว่าจะยุบทีมมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่สุดท้ายก็อยู่ยืนยาวมาถึงทุกวันนี้

เมื่อตัดสินใจไปแล้วคิดว่าคงยากที่จะเปลี่ยนใจได้หรือกลับมาขอสู้ต่อ

ที่แน่ๆ กลุ่มแฟนคลับรวมถึงคนในท้องถิ่นจะจดจำหรือโจษจันชื่อของ “ชาญศิลป์ ตรีนุชกร” บอสใหญ่ ปตท. ไปอีกนานเท่านาน ว่ายุคของท่านทำให้ทีมรักของเขาต้องล่มสลายลงไป

เหตุผลที่บอกเราต้องการมาสร้างกลุ่มอะคาเดมีอย่างจริงจังฟังไม่ขึ้นเท่าไหร่ เพราะแต่ละสโมสรทุกวันนี้เขาก็มีอะคาเดมีด้วยกันทั้งนั้นเรียกได้ว่า “เป็นของคู่กัน”

ที่สำคัญงบประมาณของ ปตท.เองในแต่ละปี ก็มีมากโข เรียกว่ามากกว่าทุกสโมสรด้วยซ้ำถ้าเทียบกันจริงๆ

การเอางบประมาณของ ปตท.มาสร้างความสุขให้กับคนท้องถิ่นจะว่าไปแล้วถือเป็น “ซีเอสอาร์” หรือการคืนกำไรให้กับประชาชนด้วยซ้ำ

ยุคก่อนๆ ช่วงที่ ปตท.เข้ามาสนับสนุนงบประมาณให้กับวงการกีฬาแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยทำให้วงการกีฬาเติบโตและประสบความสำเร็จมากมาย

จริงอยู่แม้ว่าบอสใหญ่ ปตท.ยืนยันว่าทุกวันนี้ยังให้การสนับสนุนวงการกีฬาอยู่ก็ตาม แต่ลองมาดูดีๆ มันช่างแตกต่างจากเมื่อก่อน เพราะวันนี้แทบจะนับได้ว่าสนับสนุนอะไรบ้าง

ไม่เป็นไรเวลายังมีเพราะเท่าที่ทราบข้อมูลล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมายัง ไม่ได้ส่งหนังสือยืนยันอย่างเป็นทางการในการขอพักทีมไปยังสมาคมฟุตบอล

ก็ได้แต่หวังว่าบอสใหญ่ ปตท. จะเปลี่ยนใจกลับมาสู้ต่อเพื่อสร้างความคึกคักให้กับแฟนคลับอีกครั้ง

จะเป็นความหวังลมๆแล้งๆหรือเปล่าคงต้องติดตามแบบห้ามกะพริบตา.

โจโจ้