หน้าแรกแกลเลอรี่

วีเออาร์มีบท "ซัวเรซ" จัดให้ ท่าเรือดับราชบุรี 1-0 คว้าแชมป์เอฟเอคัพสมัย2

ไทยรัฐออนไลน์

2 พ.ย. 2562 21:05 น.

เซร์คิโอ ซัวเรซ ดาวเตะของการท่าเรือ เอฟซี สวมบทฮีโร่ซัดประตูโทนช่วยให้ทีมเฉือนเอาชนะ ราชบุรี มิตรผล 1-0 คว้าแชมป์ช้างเอฟเอคัพสุดยิ่งใหญ่ 

การแข่งขันฟุตบอล ช้าง เอฟเอคัพ 2019 รอบชิงชนะเลิศ คู่ระหว่าง "ราชันมังกร" ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ดวลแข้งกับ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือ เอฟซี ณ สนาม บีจี ปทุม สเตเดียม เมื่อช่วงหัวค่ำวันเสาร์ที่ 2 พ.ย. โดยเกมนี้ทั้งสองทีมต่างใช้นักเตะที่ดีที่สุดลงสนาม เริ่มที่ท่าเรือ นำโดย นิติพงษ์ เสลานนท์, บดินทร์ ผาลา และ เซร์คิโอ ซัวเรซ ขณะที่ ราชบุรี ใช้งาน ฟิลิป โรลเลอร์, สตีเวน ล็องจิล และยานนิค โบลี

ผ่านไป 25 นาทีแรก เทคโนโลยีวิดีโอช่วยตัดสิน "วีเออาร์" ที่ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เตรียมมาได้ประเดิมใช้เป็นที่เรียบร้อย เมื่อมีจังหวะที่ เซร์คิโอ ซัวเรซ หัวหอกของท่าเรือส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายไปแล้ว ซึ่งดูเหมือนจะเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 แต่ผู้ตัดสินทำการเช็กวีเออาร์ และเห็นว่าลูกนี้ล้ำหน้าชัดเจน ทำให้ยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0  

จากนั้น "วีเออาร์" รับบทหนักอีกครั้งเมื่อต้องตัดสินจังหวะของราชบุรีบ้าง จากจังหวะที่ ลอสเซมี คาราบูเอ ยิงเข้าไปแล้ว แต่กรรมการมองวางเจ้าตัวไปทำฟาวล์ใส่ วรวุฒิ ศรีสุภา นายประตูของท่าเรือก่อน ทำให้ผู้ตัดสินต้องยกเลิกประตูดังกล่าวเป็นครั้งที่สอง และเป่าจบครึ่งแรก สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0 

ครึ่งหลังเริ่มมาได้ไม่กี่นาที ท่าเรือได้ประตูออกนำจนได้ในนาทีที่ 48 จากจังหวะตักบอลของ โกล ซุล กิ บริเวณแถวๆ กลางสนาม ไปให้กับ ซัวเรซ วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้า ก่อนแต่งบอลด้วยเท้าขวาแล้วซัดเข้าไปแบบสวยงามช่วยให้การท่าเรือ นำ 1-0  

เกมยิ่งเข้าทางสิงห์คลองเตยเข้าไปอีก เมื่อในนาทีที่ 78 ปวีร์ ตันฑะเตมีย์ แนวรับของราชบุรี มาโดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนาม ส่งผลให้ทัพราชันมังกรเหลือผู้เล่น 10 คน ส่วนปกรณ์ เปรมภักดิ์ ปีกของท่าเรือก็มาโดนใบแดงในช่วงทดเจ็บเช่นกัน แต่เวลามีไม่พอให้ราชบุรีไล่ยิงประตูคืน ทำให้จบเกม การท่าเรือ เอฟซี เฉือนเอาชนะ ราชบุรี มิตรผล 1-0 คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ (สมัยแรกในปี 2009) พร้อมรับเงินรางวัล 5 ล้านบาท และยังได้รับสิทธิ์ไปลงแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก รอบ 2 ในปี 2020.