ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ในที่สุดสมาคม กีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก็ได้ประกาศแต่งตั้ง “อากิระ นิชิโนะ” กุนซือชาวญี่ปุ่น วัย 64 ปี ขึ้นนั่งเก้าอี้เฮดโค้ช “ช้างศึก” ทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการเสียที
หลังจากที่ต้องปล่อยให้แฟนบอลกังวลใจกันมานานเกือบเดือน เมื่อวันที่ 19 ก.ค. นิชิโนะและบิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้จับมือโชว์สัญญากันต่อหน้าสื่อมวลชนแดนอาทิตย์อุทัยไปเรียบร้อย
นั่นหมายความว่า เราจะได้กุนซือสายเลือดซามูไรเข้ามาทำหน้าที่เฮดโค้ชให้กับทีมชาติไทยเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ด้วย
โดยเขาจะรับกุมบังเหียนทั้งชุดใหญ่ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เริ่มด้วยงานใหญ่ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 2 ซึ่งล่าสุดผลการจับสลากแบ่งสายก็ออกมาแล้ว
“ช้างศึก” อยู่ในสายจี ร่วมกับ เวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย 3 ชาติในอาเซียน รวมทั้ง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ทีมจากตะวันออกกลาง
ผู้สันทัดกรณีต่างวิเคราะห์วิจารณ์กันไปในทิศทางเดียวกันว่า “งานไม่หนัก”
เราจะประเดิมสนามในบ้านต่อหน้าแฟนๆ ของตัวเอง ในวันที่ 5 ก.ย. พบกับคู่รักคู่แค้นอย่าง “ดาวทอง” เวียดนาม จากนั้นวันที่ 10 ก.ย. จะออกไปเยือน “อิเหนา” อินโดนีเซีย ก่อนที่จะกลับมาเล่นในบ้านอีกครั้ง ในวันที่ 15 ต.ค. พบกับยูเออี ถัดมา วันที่ 14 พ.ย. ออกไปเยือน “เสือเหลือง” มาเลเซีย และวันที่ 19 พ.ย.ไปเยือนเวียดนาม
จากนั้นวันที่ 26 มี.ค.63 เปิดบ้านพบอินโดนีเซีย, วันที่ 4 มิ.ย.63 เยือนยูเออี และปิดท้ายวันที่ 9 มิ.ย.63 เปิดบ้านต้อนรับมาเลเซีย
ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ถ่ายทอดสดทุกแมตช์ที่ทีมชาติไทยลงสนาม
รอบคัดเลือกรอบ 2 นี้ จะเอาแชมป์กลุ่ม 8 ทีม และอันดับ 2 ที่ดีที่สุดอีก 4 ทีม ผ่านเข้ารอบ 3 พ่วงกับโควตาเอเชียนคัพ 2023 รอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติ
แม้เราจะโชคดีไม่ต้องอยู่ร่วมสายกับทีมระดับโลกอย่างเกาหลี-ญี่ปุ่น, อิหร่าน หรือแม้กระทั่งออสเตรเลีย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นงานง่ายของขุนพลช้างศึก
แน่นอนว่าด้วยอันดับโลกคงต้องยกให้ยูเออี เป็นเต็ง 1 ของกลุ่มที่จะผ่านเข้ารอบ ส่วนอีก 3 ทีมเพื่อนร่วมภูมิภาคอาเซียน ชั่วโมงนี้ ชั่วโมงที่ช้างศึกกำลังฟอร์มตก จึงไม่สามารถไว้วางใจได้เหมือนเช่นเคย
เวียดนามมีผลงานข่มทีมชาติไทยมาทุกชุด ล่าสุดก็บุกมาเชือดเราคาบ้านใน คิงส์ คัพ ที่บุรีรัมย์ พวกเขากำลังอยู่ในช่วงมั่นใจ ถึงขนาดที่แฟนบอลชาวเหงียนในโลกโซเชียลเชื่อว่าจะผ่านเข้ารอบต่อไปได้อย่างแน่นอน
ส่วนมาเลเซียเจอกันครั้งหลังสุดในรอบรองชนะเลิศเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 แม้ผลจะจบลงด้วยการที่เสมอกันทั้ง 2 แมตช์ แต่ทีมไทยก็ต้องเจ็บช้ำเพราะเป็นฝ่ายร่วงตกรอบด้วยกฎอเวย์โกล
ขณะเดียวกัน อินโดนีเซียก็เป็นอีกทีมที่เราจะประมาทไม่ได้ เพราะพวกเขาเป็นทีมที่เล่นในบ้านได้ดี การที่ใครจะบุกไปเถือเอาชนะได้ง่ายๆถึงสนามเสนายันนั้นคงไม่มี
อย่างไรก็ตาม เวลาที่เหลือน้อยนิด อีกเพียงแค่เดือนเศษ หวังว่านิชิโนะจะศึกษาข้อมูลผองแข้งไทยให้ทะลุปรุโปร่ง และเลือกใช้คนแบบไม่ฝืนธรรมชาติ
เกมแรกที่เราจะพบกับเวียดนาม มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ถ้าเริ่มต้นได้ดี ก็จะมีความมั่นใจในเกมต่อไป
แต่ถ้าสะดุดตั้งแต่เริ่มต้น ผลลัพธ์บั้นปลาย...
อาจไม่เป็นดังหวัง.
พิสิฐ ภูตินันท์ เรื่อง