บี บางปะกง
16 ชาติ ของศึกลูกหนัง “ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020” รอบสุดท้าย ที่ไทยเราจะรับหน้าเสื่อจัดขึ้นในต้นปีหน้า 8-26 ม.ค.63
ประกอบด้วย ทีมชาติไทย (เจ้าภาพ), เวียดนาม, จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, เกาหลีเหนือ, อุซเบกิสถาน, จอร์แดน, อิรัก, บาห์เรน, กาตาร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ออสเตรเลีย, อิหร่าน, ซีเรีย และ ซาอุดีอาระเบีย
โดยทัวร์นาเมนต์นี้ จะคัดเอาทีมแชมป์ รองแชมป์ และอันดับ 3 เป็นตัวแทนทวีปเอเชีย ไปลุยฟุตบอลชายในมหกรรม “โอลิมปิกเกมส์ 2020” ที่ประเทศญี่ปุ่น ต่อไป
พูดถึงบอลรายการนี้แล้ว ก็ยัง “ชีช้ำกะหล่ำทรวง” กันไม่เลิก!!
กับความพ่ายแพ้อันย่อยยับอัปราไม่มีชิ้นดีของนักเตะช้างศึก ยู-23 ที่มีต่อ เวียดนาม คู่ปรับตัวฉกาจ ด้วยสกอร์ 0-4 ในเกมรอบคัดเลือก เมื่อวันก่อน
จริงอยู่ฟุตบอลมันแพ้กันได้ครับ!...แต่การแพ้แบบหมดทางสู้ หรือไม่ยอมเอา “หัวใจ” ลงไปสู้กับคู่แข่งนั้น...
...มันเป็นอะไรที่ยากจะยอมรับ สำหรับแฟนบอลชาวไทย
จะอ้างว่าบอลเราเข้ารอบอยู่แล้วเพราะเป็นเจ้าภาพก็ดูกระไรอยู่ เพราะถ้านี่เป็น “มวย” ก็เท่ากับเสียทรง เสียรูป กันตั้งแต่ยกแรก ไม่มีเซียนหน้าไหนกล้าถือหางอีกแล้วเพราะ... เข็ดหลาบ...
จากนี้ไปคงต้องเป็นหน้าที่ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ โดยเฉพาะท่าน “นายกอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ต้องเอาใจใส่สะสางการบ้านในการเตรียมทีมชาติชุดนี้ให้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา
สำหรับ กุนซือ “อเล็กซานเดร กามา” เลิกคิดได้แล้วที่จะดันขึ้นไปคุมชุดใหญ่
เอาแค่ทำช้างศึกชุดเล็กนี้ให้รอดสันดอนในการป้องกันเหรียญทองซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์ปลายปีให้ได้เสียก่อนจะดีกว่า
ตอนนี้ปัญหาของ “นักเตะไทย” ที่เป็นเหมือนกันทุกชุด ผมว่าไม่ใช่เรื่องของฝีเท้าแล้ว
...แต่เป็นเรื่องของ “จิตใจ” และความมี PASSION กระหายอยากในการลงสนามรับใช้ชาติ ที่น้องๆหลายคนยังมีน้อยเกินไป!!
ดูอย่าง เวียดนาม ซึ่งจะว่าไปฝีไม้ลายเท้าก็ไม่ได้หนีผู้เล่นของเราสักเท่าไหร่
...แต่สิ่งหนึ่งที่เขามี แล้วเราไม่ค่อยมี ก็คือความมุ่งมั่น ทุ่มเทเกินร้อยแรงถีบ!
ซึ่งตรงนี้คงต้องให้เครดิตกับ “ปาร์ค ฮัง ซอ” โค้ชชาวโสมไปเต็มๆ ที่สามารถปลูกฝังสปิริตความเป็น “นักสู้” ให้กับแข้งเหงียนในเจเนอเรชันใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ
สมัยก่อนผมทำข่าวบอลไทยยุคแล้ว ยุคเล่า ไม่เคยมีสักครั้งที่จะรู้สึกเป็นรอง หรือ กริ่งเกรงศักดิ์ศรี บอลญวน เพราะยังไงเราก็ (แทบ) ผูกปีชนะเขาตลอด
ต่างกันกับยุคนี้ ที่ต้อง “ซีเครียด” ตลอด เวลาต้องเจอเวียดนาม เนื่องจากกดดัน
และไม่แน่ใจตัวเองว่า...เหนือกว่าเขาจริง หรือปล่าวว...??
ตามความเชื่อในหลักพุทธศาสนา มีการพูดกันบ่อยๆเรื่องของ “เจ้ากรรมนายเวร” ที่ตามล้างตามเช็ดกันไม่ยอมลดละ
ฟุตบอลไทย ก็เหมือนกันครับ ไม่รู้ทำกรรมกับพวกเหงียนมาแต่ชาติปางไหน...
...เราถึงหนีไม่เคยพ้นสักกะที!!!
บี บางปะกง