พาวเวอร์บอมบ์
“ช้างศึก” ทีมชาติไทย ออกเดินทางไปประเทศมาเลเซียแล้ว ก่อนลงเตะฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รอบรองชนะเลิศ นัดแรก กับทีม “เสือเหลือง” ในวันที่ 1 ธ.ค.
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่วายมีเรื่องให้ดราม่าอีก
เมื่อพลพรรคนักเตะแดนสยามต้องขึ้นเครื่องบินชนิดต้องแวะ ทั้งๆที่จุดหมายอยู่ใกล้แค่มาเลเซีย จึงมีคำถามตามมาว่าทำไมต้องแวะให้เสียเวลา
สมาคมกีฬาฟุตบอลฯดำเนินการเรื่องตั๋วโดยสารเครื่องบินจากสนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนจะแวะลงจอดที่สนามบินสมุยชั่วโมงกว่าๆ แล้วค่อยบินไปที่สนามบินนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
เรื่องนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่พอสมควร ซึ่งผมว่าประเด็นที่สำคัญที่สุดมันไม่ได้อยู่ที่แวะหรือไม่แวะ
หากมองภาพรวมประเด็นสำคัญมันอยู่ที่เรื่องของการจัดการมากกว่า
ทีมชาติไทยมีเวลา (รู้ตัว) ว่าจะเจอกับมาเลเซียไม่ต่ำกว่า 5 วัน ไฉนมาอ้างได้ว่า “ตั๋วเต็ม”
แม้ “บิ๊กโจ” นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะออกมาชี้แจงว่า เป็นความต้องการของ “มิโลวาน ราเยวัช” กุนซือใหญ่ของทีมก็ตามที
“โค้ชมิโล” ให้เงื่อนไขการเดินทางว่า 1.ต้องซ้อมเช้า (วันเดินทาง) 2.ขอบินช่วงบ่าย และ 3.ต้องไปพร้อมกันหมดทั้งทีม
การที่สมาคมออกมาชี้แจงเช่นนี้จะให้แฟนบอลเข้าใจอย่างไรดี
1.ลุงมิโลเรื่องมาก หรือ 2.สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ไม่มีปัญญาบริหารจัดการภายใต้เงื่อนไขของโค้ช
จะให้มองมุมไหนมันก็ไม่เข้าท่า
นี่หากผลการแข่งขันนัดนี้ออกมาแบบไม่เป็นใจอีกละก็ เรื่องนี้คงจะได้กลับมาถกเถียงกันอีกแน่
พับผ่าสิ...เอาเป็นว่ามาถึงตรงนี้ ว่าไงก็คงต้องว่าไปตามกันแล้วล่ะครับ เราโฟกัสที่แมตช์ตัดเชือกที่บ้านมาเลเซียเป็นอันดับแรกเลยจะดีกว่า
ทัพนักเตะช้างศึกต้องเจอความกดดันถาโถมเข้าใส่อย่างมหาศาลอย่างแน่นอน ด้วยต้องเล่น ต่อหน้าแฟนบอลเจ้าถิ่นเกือบๆแสนคน
นักเตะชุดนี้ก็ไม่ค่อยได้เจออะไรแบบนี้เสียด้วยซิ
อีกทั้งสถิติที่ผ่านมาแม้โดยรวมเราจะเป็นต่อ (ชนะ 7 เสมอ 3 แพ้แค่ 3 นัด) แต่ช้างศึกก็ไม่เคยบุกไปชนะเสือเหลืองที่สังเวียนบูกิต จาลิล ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
โดยในปี 2004 แพ้ 1-2 ในรอบแรก, ปี 2012 เสมอ 1-1 ในรอบรองชนะเลิศ นัดแรก และปี 2014 แพ้ 2-3 ในรอบชิงชนะเลิศ นัดที่สอง
แฟนบอลต้องเอาใจช่วยกันหน่อยครับ งานนี้มีเหนื่อย!!!
พาวเวอร์บอมบ์