บี บางปะกง
กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา วงการฟุตบอลทั้งไทยและเทศต่างพบกับความสูญเสียในเวลาใกล้เคียงกัน
สำหรับไทยเราก็เป็น “โกเอี่ยม” เอี่ยม ถาวรว่องวงศ์ ปูชนียบุคคลแห่งแวดวงกีฬาโดยเฉพาะวงการฟุตบอล จ.ภูเก็ต
ผู้ที่บิ๊กลูกหนังทั่วโลกต่างรู้จักมักจี่ในชื่อเสียงเสียมากกว่าผู้นำประเทศเสียอีก เพราะใครที่เคยมาเยือนภูเก็ตต่างก็เคยผ่านการต้อนรับขับสู้อย่างชนิดประทับอกประทับใจจากบุรุษน้ำใจงามอย่าง “โกเอี่ยม” ด้วยกันแทบทั้งนั้น
ส่วนอีกคนที่ลาจากโลกนี้ไปชนิดช็อกแฟนบอลทั้งโลก ก็คือ “เรย์ วิลกินส์” อดีตยอดมิดฟิลด์ของเชลซี, แมนฯยูไนเต็ด และเอซี มิลาน ในยุคทศวรรษ 80 ซึ่งบังเอิญหรือเปล่าก็ไม่รู้ที่มาเสียชีวิตด้วยอาการโรคหัวใจเช่นเดียวกับโกเอี่ยมของเรา
“ตะลุยฟุตบอลโลก” จึงต้องขอ RIP. แสดงความอาลัยแด่ดวงวิญญาณของทั้ง 2 ท่านมา ณ ที่นี้ด้วย
บอลถ้วยเอเชีย เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2018 กำลังจะเดินทางมาถึงนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มกันแล้วในกลางเดือนนี้ โดย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตัวแทนหนึ่งเดียวของไทยแลนด์ ยังมีลุ้นอีกเฮือกที่จะเข้ารอบต่อไป หลังเพิ่งฮึดไล่ตีเสมอ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ในช่วงทดเจ็บ
แมตช์สุดท้าย ที่จะเตะกันในวันที่ 17 เม.ย.นี้ บุรีรัมย์ จะต้องบุกไปชนะ เจจู ยูไนเต็ด ที่เกาหลีใต้ให้ได้สถานเดียว ถึงจะมีโอกาสลุ้นเข้ารอบ และหากแข้งเซราะกราวบุกชนะได้ ก็ยังต้องลุ้นผลอีกคู่ให้กว่างโจว เปิดบ้านมีแต้ม (ชนะหรือเสมอ) จาก เซเรโซ โอซากา นั่นแหละทีมปราสาทสายฟ้าจึงจะได้เฮ!
ก็ต้องถือเป็นงานเหนื่อยหนักของบุรีรัมย์ ล่ะครับ เพราะแค่เงื่อนไขแรกที่ต้องบุกไปกำชัยเหนือเจจูถึงถิ่นให้ได้ก็น้ำลายเหนียวคอแล้ว
แม้ทีมจากแดนโสมจะหมดสิทธิ์เข้ารอบไปแล้วก็ตาม แต่ด้วยศักดิ์ศรีเคลีกเขาไม่ยอมแพ้คาบ้านตัวเองง่ายๆหรอก ขนาดแชมป์ไทยลีกเล่นในรังตัวเองแท้ๆยังเคยปราชัยเขามาแล้วในเกมแรกที่เจอกัน
และไม่ใช่แค่ถ้วยเอเอฟซี เท่านั้นนะครับ ที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องเหงื่อตกกีบ แต่เมื่อเหลือบไปดูโปรแกรมในศึกไทยลีก เดือน เม.ย.นี้ ก็ต้องถือว่าหนักหนาสาหัสสากรรจ์เช่นกัน เพราะเตะกันถี่ยิบแบบไม่ต้องหายใจหายคอ
เริ่มจากเสาร์ที่ 7 เม.ย.นี้ ที่แข้งเซราะกราวต้องออกไปเยือน สุพรรณบุรี เอฟซี ทีมจอมหนังเหนียว ที่มีสถิติเสียประตูน้อยที่สุดในไทยลีกเวลานี้
จากนั้น พุธที่ 11 เม.ย. จะกลับมาเปิดบ้านพบทีมฟอร์มแรง การท่าเรือ ที่ปีนี้ประกาศขอเป็นผู้ท้าชิงบัลลังก์แชมป์ลีกกับเขาด้วยอย่างเต็มตัว
ก่อนที่อังคารที่ 17 จะไปเล่นแชมเปียนส์ลีกนัดชี้ชะตากับเจจู แล้วจึงบินกลับมาขึ้นเหนือไปลุยกับ เชียงราย ยูไนเต็ด อีกทีมที่ช่วงหลังๆ มักเป็นของ “แสลง” ของทีมปราสาทสายฟ้า ในวันอาทิตย์ที่ 22 เม.ย.
อีก 3 วันต่อมา ก็จะต้องมาเปิดศึกดาร์บี้แมตช์อีสานในบ้านตัวเองกับขุนพล “สวาดแคท” นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พุธที่ 25 เม.ย.
และปิดท้ายเดือนเมษาฯมหาโหด ในวันอาทิตย์ที่ 29 ด้วยการยกพลไปเยือนรัง “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี ที่ออกสตาร์ตซีซั่นนี้ได้อย่างร้อนแรง จนเกาะท็อปไฟว์ของตาราง
เรียกว่าทุกนัด ทุกเกมที่เหลือของบุรีรัมย์ ในเดือนนี้ ไม่มีงานง่ายเลยสักกะแมตช์
แต่อย่างว่าครับ รักจะเป็น “สุดยอดทีม” ที่ต้องอัพเลเวลอยู่เหนือ (ชั้น) กว่าสโมสรอื่นอยู่ตลอด
มันก็ต้อง “ซีเครียด” กันหน่อย เป็นธรรมดา!!!
บี บางปะกง