ไทยรัฐออนไลน์
อดีตแนวรับทีมชาติไทย เตรียมอำลาสังเวียนอย่างเป็นทางการ หลังเกมนัดชิงดำเอฟเอ คัพ ระหว่าง แบงค็อก ยูไนเต็ด พบกับ เชียงราย ยูไนเต็ด ในวันเสาร์นี้...
วันที่ 24 พ.ย.60 “กัปตันใหม่” ภานุพงศ์ วงศ์ษา ปราการหลังจอมเก๋าอดีตทีมชาติไทย ประกาศเตรียมแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ หลังเสร็จสิ้นภารกิจกับต้นสังกัด แบงค็อก ยูไนเต็ด ในเกมนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ วันเสาร์นี้
โดย ภานุพงศ์ เปิดใจผ่านเว็บไซต์ของทีมแข้งเทพว่า “ผมเริ่มต้นในฐานะนักฟุตบอลอาชีพเมื่อปี 2545 เป็นเวลา 15 ปีแล้วที่ผมมาได้ไกลเกินกว่าที่คาดฝันไว้อย่างไม่น่าเชื่อ จากเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่งที่มีความฝันว่า อยากจะลงเล่นในสนามศุภชลาศัยสักครั้ง หรือการได้ลงเล่นในฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 15 ปี เป็นสิ่งที่มากกว่าที่ผมฝันเอาไว้ การได้รับโอกาสเป็นกัปตันทีมชาติไทย ถือเป็นเกียรติประวัติอันสูงสุด รวมถึงการได้รับหน้าที่เป็นกัปตันทีมของสโมสรชั้นนำในประเทศไทยคือช่วงชีวิตที่มหัศจรรย์”
“แผนการแรกของผมคือการลงเล่นต่ออีกหนึ่งปี แต่เมื่อได้ปรึกษากับผู้บริหาร รวมถึงสต๊าฟโค้ชของสโมสร ก็ได้ความเห็นว่าอยากให้ผมมาช่วยงานโค้ชที่นี่ เป็นสิ่งที่ผมกลับไปคิดทบทวนอยู่นานและเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างยาก แต่ผมคิดอยู่เสมอว่าอยากจะแขวนสตั๊ดกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด การรับบทบาทในฐานะผู้ช่วยโค้ชของทีมจะเป็นการช่วยสโมสรได้มากขึ้น ผมจึงตัดสินใจยุติอาชีพนักฟุตบอลไว้ในปีนี้”
“เกมสุดท้ายของผมหวังว่าจะจบลงอย่างสมบูรณ์แบบ การได้ชูถ้วยแชมป์ เอฟเอ คัพ กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด จะเป็นการปิดฉากอาชีพนักฟุตบอลได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด ผมไม่ได้ฝากเพียงแค่คำพูดเอาไว้ให้นักฟุตบอลรุ่นใหม่ที่อยู่ข้างหลัง ทุกคนที่ผมเคยร่วมงานผมได้แสดงออกให้เห็นไปแล้วทั้งในสนามและนอกสนาม สิ่งสำคัญที่สุดคือทัศนคติของการเป็นนักฟุตบอล ทุกคนควรมีทัศนคติที่ดีต่อฟุตบอล ต่อสโมสร และต่อเพื่อนร่วมทีมไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ช่วงเวลาที่ย่ำแย่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ทัศนคติที่ดี ความมุ่งมั่น และสมาธิกับฟุตบอลจะทำให้เราผ่านไปได้”
“ตลอดเวลา 15 ปีที่ผ่านมาผมขอขอบคุณเพื่อนร่วมทีมทุกๆคน สโมสรทุกสโมสรที่ผมเคยร่วมงาน แฟนบอลที่สนับสนุนผมอยู่เสมอ และที่สำคัญที่สุดคือครอบครัว ที่อยู่เคียงข้างผมเสมอทั้งในเวลาที่ประสบความสำเร็จ หรือแม้แต่เวลาที่ยากลำบาก”
“บทบาทใหม่ในฐานะผู้ช่วยโค้ชของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ผมหวังว่าทุกคนจะคอยให้กำลังใจผมเหมือนกับช่วงเวลาที่ยังเป็นนักฟุตบอลอยู่เช่นกัน” ภานุพงศ์ วงศ์ษา กล่าว.
ขอบคุณภาพจากแฟนเพจ Bangkok United