ไทยรัฐฉบับพิมพ์
สมาคมกีฬาจักรยานฯ เดินหน้า ลุยแผนพัฒนานักกีฬาทุกประเภทต่อเนื่อง พร้อมเผยคิวแข่งช่วงที่เหลือของปี 2560 โปรแกรมยังแน่นทั้งส่งนักปั่นเยาวชนไปเก็บแต้มสะสมเพื่อคว้าโควตาไปชิงชัยในศึกยูธโอลิมปิกเกมส์ 2018 ที่อาร์เจนตินา เช่นเดียวกับนักปั่นรุ่นใหญ่ที่ต้องล่าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2020 รวมทั้งเตรียมความพร้อมเพื่อล่าเหรียญทองซีเกมส์ ที่มาเลเซีย กับเอเชียนอินดอร์ฯ ที่เติร์กเมนิสถาน โดย 2 มหกรรมกีฬาดังกล่าว แม้จะโดนตัดงบประมาณในการไปฝึกซ้อมต่างประเทศก่อนแข่งจริง แต่ก็จะดิ้นรนหาเงินไปเอง...
วันที่ 3 พ.ค. 60 พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของปี 2560 นั้น เรามีภารกิจสำคัญคือการส่งนักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขันรายการต่างๆทั้งระดับเยาวชน ประเภทถนน, เมาเท่นไบค์ และบีเอ็มเอ็กซ์ เพื่อทำคะแนนสะสมให้ได้สิทธิไปแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ 2018 ที่อาร์เจนตินา ในปีหน้า ขณะเดียวกัน นักกีฬาจักรยานทั้งชายและหญิงก็ยังคงมีโปรแกรมตระเวนแข่งขันเพื่อทำคะแนนสะสมในอันดับโลก รองรับการคัดเลือกกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่น อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ในส่วนของการแข่งขันระดับเยาวชนเพื่อคัดเลือกยูธโอลิมปิกเกมส์ 2018 สมาคมฯจะส่งเข้าร่วมแข่งขันรายการสำคัญแต่ละประเภท ดังนี้ ประเภทถนนทัวร์ เดอ อาบิติบี้ (ทีมชาย) ที่แคนาดา วันที่ 17-23 ก.ค., ทัวร์ เดอ ดีเอ็มซี (ทีมชาย) ที่เกาหลีใต้ วันที่ 2-5 ก.ย., จักรยานถนนชิงแชมป์โลก (ทีมชาย-ทีมหญิง) ที่นอร์เวย์ วันที่ 17-24 ก.ย., ประเภทภูเขา จักรยานภูเขาชิงแชมป์โลก 2017 (ทีมชาย-ทีมหญิง) วันที่ 5-10 ก.ย., ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ รายการ บีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่ง ชิงแชมป์โลก 2017 ที่สหรัฐอเมริกา วันที่ 25-29 ก.ค., บีเอ็มเอ็กซ์ฟรีสไตล์ ชิงแชมป์โลก 2017 ที่จีน ในเดือน ต.ค. โดยจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์โลก มีเยาวชนไทย 2 คน คือ ปฏิภาณบุญขยาย กับโกเมศ สุขประเสริฐ ได้รับคัดเลือกจากสหพันธ์จักรยานนานาชาติ ให้เข้าร่วมโครงการนักกีฬาเยาวชนฝึกซ้อมที่ร็อกฮิล รัฐแคลิฟอร์เนีย สนามแข่งขันชิงแชมป์โลก เพื่อพัฒนาศักยภาพให้พร้อมที่จะเข้าแข่งขันชิงแชมป์โลกเป็นเวลา 2 เดือนเต็ม
ด้านประเภทถนน, ลู่, เมาเท่นไบค์ และบีเอ็มเอ็กซ์ รุ่นประชาชน สมาคมยังจะส่งเข้าแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมสำหรับเป็นฐานในการคัดเลือกโอลิมปิกอย่างต่อเนื่องในนามทีมอาชีพ Thailand Continental Team กับ Thailand’s Women Team และทีมชาติไทย รวมถึงส่งเข้าแข่งขันในมหกรรมกีฬาภูมิภาคที่สำคัญ ดังนี้ ประเภทถนนทีมหญิง รายการทัวร์ ออฟ จงหมิง ไอส์แลนด์ ที่จีน วันที่ 5-7 พ.ค., ทัวร์ ออฟ โจวซาน ไอส์แลนด์ ท่ีจีน วันที่ 10-12 พ.ค., ทัวร์ ซิคลิสเต เฟมินิน อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ฝรั่งเศส วันที่ 5-10 ก.ย., ชิงแชมป์โลก ประเภทถนน ที่นอร์เวย์ วันที่ 17-24 ก.ย. ส่วนทีมชาย ทัวร์ เดอ คูมาโน ที่ญี่ปุ่น วันที่ 1-4 มิ.ย.,ทัวร์ เดอ โคเรีย ที่เกาหลีใต้ วันที่ 14-18 มิ.ย., ทัวร์เดอ เซลังงอร์ ที่มาเลเซีย วันที่ 17-21 ต.ค., ประเภทภูเขา จักรยานภูเขาชิงแชมป์เอเชีย (ทีมชาย-ทีมหญิง) ที่จีน วันที่ 13-14 พ.ค., ติมอร์เลสเต เอ็มทีบีอินเตอร์เนชั่นแนล ที่ติมอร์ วันที่ 19-23 ก.ย., ประเภทลู่ ไต้หวัน แทร็กคัพ (ทีมชาย-หญิง) ที่ไต้หวัน วันที่ 2-4 มิ.ย., เอซีซี แทร็ก เอเชียคัพ ที่กรุงเทพฯวันที่ 6-8 ต.ค., ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ บีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์เอเชีย (ทีมชาย-หญิง) ที่ จ.สุพรรณบุรี 28-29 พ.ค.
นอกจากนี้นักปั่นไทยยังจะต้องเข้าร่วมการแข่งขันระดับมหกรรมสำคัญในภูมิภาคอีก 2 รายการ คือ การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่มาเลเซียวันที่ 19-30 ส.ค. ในประเภทถนน, ลู่ และบีเอ็มเอ็กซ์และกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชียลอาร์ตเกมส์ ในประเภทลู่ ที่เติร์กเมนิสถาน วันที่ 17-27 ก.ยด้วย
“ใน 2 มหกรรมกีฬาใหญ่นั้น การแข่งขันจะใช้ลู่ปาเก้ ระยะทาง 250 เมตร ซึ่งเดิมเรามีแผนส่งไปฝึกซ้อมเพื่อให้เคยชินกับลู่ 250 เมตร ที่ออสเตรเลีย เป็นเวลา 2 เดือน แต่ถูกตัดงบประมาณ ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนไปหาลู่ซ้อมที่จีน ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานในรายละเอียด โดยลี ไห่ หยวน ผู้ฝึกสอนชาวจีน กำลังติดต่อว่าจะไปซ้อมที่สนามเวลโลโดรม ในกรุงปักกิ่ง หรือมณฑลชานซี โดยส่วนนี้สมาคม จะหางบประมาณเองทั้งหมด” พล.อ.เดชา กล่าว