ไทยรัฐออนไลน์
สมาคมกีฬาจักรยานฯ ส่งนักปั่นทีมชาติไทยทั้งชายและหญิงลงการแข่งขันประเภทถนนถึง 3 รายการ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขัน ซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ และ โอลิมปิก ในวันข้างหน้า
วันที่ 26 กันยายน 2567 “สองล้อ” ส่งนักปั่นประเภทถนนลุยศึกใหญ่ 3 รายการ โดยนักกีฬาชายทีมชาติไทย นำโดย “ธนาคาร ไชยยาสมบัติ” นักปั่นชุดโอลิมปิกเกมส์ 2024 ไปร่วมชิงชัยจักรยานทางไกล “เลอ ทัวร์ เดอ ลังกาวี 2024” ที่ประเทศมาเลเซีย วันที่ 29 ก.ย.-6 ต.ค. 67 ซึ่งจะได้ปะทะฝีมือกับทีมระดับอาชีพชั้นนำของโลกมากมาย ขณะทีมอาชีพหญิง “ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิงทีม” นำโดย “เพชรดารินทร์ สมราช” นักปั่นชุดโอลิมปิกเกมส์ 2024 ก็จะไปร่วมแข่งขัน “ทัวร์ ออฟ จงหมิง ไอส์แลนด์” วันที่ 15-17 ต.ค. 67 ต่อด้วย “ทัวร์ ออฟ กว่างสี” วันที่ 20 ต.ค. 67 ที่ประเทศจีน ด้าน “เสธ.หมึก” เผยเป็นการเตรียมความพร้อมในระยะยาว ทั้งกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทย, เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 20 ที่ประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงโอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่สหรัฐอเมริกา
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ได้วางแผนส่งนักปั่นชุดถนนชาย-หญิง ออกลุยศึกใหญ่ 3 รายการ ที่ประเทศมาเลเซียและประเทศจีน เป็นการส่งท้ายฤดูกาล 2024 และเป็นการเริ่มต้นศักราชเตรียมความพร้อมสู่อนาคตในระยะยาว ทั้งการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568, การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 20 ที่เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 19 กันยายน-4 ตุลาคม 2569 และโอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่นครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 14-30 กรกฎาคม 2571
พลเอกเดชา กล่าวว่า รายการแรกที่นักปั่นถนนชายทีมชาติไทยจะลงแข่งขันคือการแข่งขันจักรยานทางไกล “เลอ ทัวร์ เดอ ลังกาวี 2024” ที่ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 29 กันยายน - 6 ตุลาคม นักกีฬาประกอบด้วย “เฟรม” ส.อ.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ นักปั่นทีมชาติไทยชุดโอลิมปิกเกมส์ 2024, “มะตูม” พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง, “วุฒิ” ส.ท.สราวุฒิ สิริรณชัย, “ดอย” ร.ต.ท.นวุติ ลี้พงษ์อยู่, “ออม” นายรัชชานนท์ เยาวรัตน์ และ “เกมส์” นายนพชัย กล้าหาญ ซึ่งการแข่งขันรายการนี้เป็นการแข่งขันระดับ 2.Pro ทำให้มีนักปั่นทีมอาชีพชั้นนำของโลกระดับ “เวิลด์ ทีม” ทั้งทีมแอสตาน่า คาซักสถาน, อีเอฟ เอดูเคชั่น หรือเบอร์กอส บีเอช พร้อมด้วยทีมระดับ ยูซีไอ โปรทีม และยูซีไอ คอนติเนนตัลทีม ทั้งจากทวีปเอเชีย, ยุโรป เข้าประชันฝีเท้ากันอย่างคับคั่ง ในขณะที่ระดับทีมชาติมีเพียง 3 ชาติ ได้แก่ มาเลเซีย, ไทย และฟิลิปปินส์ จากทั้งหมด 22 ทีมที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน
“เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า ต่อจากนั้นก็จะเป็นคิวของทีมอาชีพหญิง “ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิงทีม” ที่จะเดินทางไปร่วมการแข่งขัน 2 รายการใหญ่ที่ประเทศจีน ประกอบด้วย “ทัวร์ ออฟ จงหมิง ไอส์แลนด์” ระหว่างวันที่ 15-17 ตุลาคม และต่อด้วยการแข่งขัน “ทัวร์ ออฟ กว่างสี” ในวันที่ 20 ตุลาคม ซึ่งทั้ง 2 รายการเป็นการแข่งขันระดับอาชีพสูงสุดของจักรยานอาชีพหญิง วีเมนส์ เวิลด์ ทัวร์ โดยนักกีฬาหญิงไทยที่จะร่วมชิงชัยทั้ง 2 รายการประกอบด้วย “แพร” ส.อ.หญิง เพชรดารินทร์ สมราช นักปั่นชุดโอลิมปิกเกมส์ 2024, “บีซ” ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์, “จันทร์” พ.ต.หญิง จันทร์เพ็ง นนทะสิน, “ไก่” ส.อ.หญิง ศุภักษร นันตะนะ, “บีม” ส.ท.หญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ
พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า การแข่งขันทั้ง 3 รายการเป็นการปิดฤดูกาลในการเก็บคะแนนสะสมยูซีไอของปี 2024 ขณะเดียวกันก็เป็นการเริ่มต้นเดินหน้าแผนการเก็บตัวฝึกซ้อมนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยระยะยาวเพื่อเตรียมรับการแข่งขันรายการใหญ่ในอนาคตทั้งกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในปีหน้า ต่อเนื่องไปถึงกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 20 ที่เมืองนาโกยา ประเทศญี่ปุ่น ปี 2569, กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 34 ที่ประเทศมาเลเซีย ปี 2570 และการควอลิฟายนักปั่นไทยเข้าสู่มหกรรมกีฬามนุษยชาติ โอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่นครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 2571
พลเอกเดชา กล่าวเสริมว่า ขณะนี้ตนอยู่ระหว่างการเข้าร่วมประชุมใหญ่สหพันธ์จักรยานนานาชาติ หรือ UCI Congress 2024 ที่นครซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยระหว่างการประชุมจะมีโอกาสเข้าหารือกับ มร.เดวิด แลปปาร์เตียน ประธานยูซีไอ และ มร.จาเควส แลนดรี้ ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ถึงเรื่องความร่วมมือระหว่างกันเพื่อพัฒนากีฬาจักรยานทั้งของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน นอกจากนี้ก็ยังจะได้หารือกับนายกสมาคมจักรยานในภูมิภาคยุโรปถึงความเป็นไปได้ที่จะนำนักกีฬาจักรยานไทย โดยเฉพาะประเภทถนนทั้งชายและหญิงเข้าร่วมทีมอาชีพระดับเวิลด์ทีม หรือยูซีไอ โปรทีมในอนาคต เพื่อให้นักปั่นไทยได้พัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่ต่อไป.