หน้าแรกแกลเลอรี่

เปิดศึกสายเลือด "ธีระ-สุภัค" ชิงรุ่นใหญ่ "วอเตอร์เจ็ต โปรทัวร์ ไทยแลนด์ 2024" ที่นครปฐม

ไทยรัฐออนไลน์

17 ส.ค. 2567 18:00 น.

ศึกสายเลือด ธีระ-สุภัค เสร็จธุระ ยังสูสีในการแย่งแชมป์ประเทศไทยรุ่นโปรเจ็ตสกีที่แรงเร็วที่สุดในโลก ขณะที่ อานนท์ หงษ์กลาง จ่อแชมป์โปรเรือยืน ในศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย “โตโยต้า – ทูดับบิว วอเตอร์เจ็ต โปรทัวร์ ไทยแลนด์ 2024” สนามตัดสินแชมป์ ที่บึงดอนตูม นครปฐม เมื่อวันที่ 17 ส.ค.

 
การแข่งขัน เจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย "โตโยต้า - ทูดับบิว วอเตอร์เจ็ต โปรทัวร์ ไทยแลนด์ 2024" ระหว่างวันที่ 16-18 สิงหาคมที่บึงดอนตูม จังหวัดนครปฐม เข้าสู่การแข่งขันวันที่ 17 สิงหาคม เป็นวันเริ่มต้นของการชิงชัยในรุ่นระดับมืออาชีพ โดยมีนายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายก อบจ.นครปฐม เป็นประธานในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ และนายสมรัก มีใจดี นายกเทศบาลตำบลสามง่าม ร่วมรับชมถึงสนามแข่งขัน
 
รุ่นที่ลุ้นแชมป์ประเทศไทยอย่างสูสี และเป็นรุ่นที่แรงเร็วที่สุดในโลก เรือนั่งอาชีพแต่งเครื่องยนต์ จีพี (Pro-Am Runabout GP) เป็นการเบียดลุ้นแชมป์กันของ 2 พี่น้องเสร็จธุระ โดยก่อนสนามนี้ ธีระ ผู้พี่มีคะแนนสะสมนำเป็นจ่าฝูงเมื่อผ่าน 3 สนามแรก 108 คะแนน ขณะที่ สุภัค ผู้น้อง ตามหลังอยู่ 2 คะแนน แต่หากว่าทั้งคู่พลาดก็มี เพิ่มพล ธีระพัฒน์พาณิชย์ นักแข่งเจ้าถิ่นที่มี 96 คะแนนเป็นตัวสอดแทรก
 
เกมโมโตแรกจาก 3 โมโตของสนามนี้ ช่วงออกตัวเป็น สุภัค ที่ออกนำ ตามด้วย เพิ่มพล และ ธีระ แต่เป็น สุภัค ที่พลาดมาเรือเสียก่อนจบไม่กี่รอบ ขณะที่ ธีระ ก็พลาดถูก อรพรรณ ธีระพัฒน์พาณิชย์ แซง ทำให้ เพิ่มพล กลายเป็นผู้นำจนเข้าที่ 1 อรพรรณ เข้าที่ 2 และ ธีระ เข้าที่ 3
 
แต่ก็ถือว่าการลุ้นแชมป์ประเทศไทยของรุ่นนี้ระหว่าง ธีระ กับ สุภัค ยังคงสูสีในอีก 2 โมโต วันที่ 18 สิงหาคม เพราะคะแนนสนามนี้ของทั้งคู่ยังไม่ห่างกันเท่าไรนัก
 
ขณะที่รุ่นใหญ่ของเรือยืน รุ่นเรือยืนอาชีพแต่งเครื่องยนต์ กรังด์ปรีซ์ (Pro-Am Ski Grand Prix) ลงมาสู้กัน 3 โมโต เป็นอีกรุ่นที่ลุ้นแชมป์เดือด อานนท์ หงษ์กลาง อดีตแชมป์ประเทศไทยนำจ่าฝูงที่ 103 คะแนน เบียดลุ้นแชมป์กับ ธนวินท์ โมลี ที่มี 101 คะแนน สถานการณ์จึงสามารถพลิกได้ในทุกโมโต
 
อานนท์ ออกสตาร์ตโมโตแรกได้อย่างยอดเยี่ยม ชิงจังหวะเหนือ นันทวัฒน์ สิงห์อุไร แชมป์เก่า ขึ้นนำในรอบแรก และประคองตัวเข้าที่ 1 ได้ แม้ว่า นันทวัฒน์ จะไล่หนักในช่วงท้าย ขณะที่อันดับ 3 เป็น ภูริภัทร ทองก้อน โดยที่ ธนวินท์ เข้าที่ 4 ต้องเร่งผลงานอย่างหนักในอีก 2 โมโตที่เหลือ
 
รุ่นเรือนั่งอาชีพ แต่งเครื่องยนต์ สปอร์ต จีพี (Sport GP) ทำการแข่งขัน 3 โมโต กีรติกร ผิวงาม นักแข่งดาวรุ่งมีโอกาสคว้าแชมป์สมัยแรกของตัวเองนำมาห่างที่ 120 คะแนน สนามนี้จึงไม่ต้องเสี่ยงมาก ซึ่งโมโตแรกเป็น ธีรภัทร มีชัย ที่ออกนำตั้งแต่ต้นเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ตามด้วย ธนภัทร ทิพย์ประไพ และ อับดุล เดวีเลาะ ส่วน กีรติกร เข้ามาเป็นที่ 4 แต่ก็เก็บคะแนนเข้าใกล้แชมป์ประเทศไทยไปอีกก้าว
 
รุ่นเรือนั่งอาชีพ 1,100 ซีซี แต่งเครื่องยนต์ (Pro-Am Runabout 1100 Open) แข่งขัน 3 โมโต เป็นการชิงดำแชมป์ประเทศไทยของ สุภทัต ฟูตระกูล แชมป์ 3 สมัยล่าสุดกับ กศิดิศ ธีระประทีป ที่มี 113 คะแนนเท่ากัน และ มาร์เชลล์ บูฮิซาน นักแข่งฟิลิปปินส์หวังเป็นม้ามืดมีอยู่ 96 คะแนน
 
ซึ่งโมโตแรก สุภทัต ทะยานออกตัวเป็นผู้นำ ขณะที่เรือของ กษิดิศ มีปัญหาตั้งแต่รอบแรกจึงพยายามประคองตัวจบเป็นที่ 4 ซึ่ง สุภทัต ก็นำจนจบเกม มี บุ๊ค เสริมสุวรรณ เข้าที่ 2 และ ธีรภัทร มีชัย เป็นที่ 3