ไทยรัฐฉบับพิมพ์
2 ฮีโร่โอลิมปิกปารีส 2024 กลับถึงไทย ท่ามกลาง บรรยากาศต้อนรับสุดอบอุ่น “เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” จอมเตะประวัติศาสตร์ เหรียญทอง ปารีสเกมส์ ยืนยันปิดฉากชีวิตนักกีฬาเทควันโดแน่นอน เปรียบตัวเองเป็นหนังสือ มีตอนจบ ที่สวยงามที่สุดแล้ว ออกอาการเขินเมื่อถูกนักข่าวถามถึง ความสัมพันธ์กับ “จูเนียร์” รามณรงค์ หลังต้องปิด เงียบมาตลอด 9 ปี ถูกนักข่าวถามเรียกแฟนได้แล้วหรือยัง เจ้าตัวเขินบอกกลัวพ่อว่า ส่วนเงินอัดฉีดยอดล่าสุดอยู่ที่ 19.08 ล้านบาท ขณะที่จูเนียร์ที่มารับ แฟนสาวถึงสนามบินบอกรักอีกรอบ พูดชัดเจนเต็มปาก ว่าเทนนิสคือแฟน โล่งใจที่เปิดตัวได้แล้ว “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง เหรียญทองแดงมวยสากลหญิง เตรียมแก้บนหมอลำ เผยกำลังดีล “ก้อง ห้วยไร่” มาร้องเพลง ให้ สโมสรบ้านทองหยอด นำ “วิว-กุลวุฒิ”“เมย์-รัชนก” ขอบคุณ “สิงห์” ที่ดูแลสนับสนุนและสร้าง ต่อเนื่องจนนักตบลูกขนไก่ก้าวไกลถึงระดับโลก
หลังทัพนักกีฬาไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยครองอันดับ 1 ในอาเซียน และสามารถซิวเหรียญมาได้ครบทุกเหรียญทั้งทอง เงินและทองแดง อาทิ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ที่คว้าเหรียญเงินแรกในการแข่งขันแบดมินตันในรอบ74ปีของสมาคมแบดมินตันไทย “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกจากกีฬาเทควันโด รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง มวยสากล “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง เหรียญทองแดง รุ่น 66 กิโลกรัมหญิง “เวฟ” วีรพล วิชุมา จอมพลังจาก จ.สุรินทร์ เหรียญเงิน ยกน้ำหนักรุ่น 73 กิโลกรัมชาย “ฟ่าง”ธีรพงศ์ ศิลาชัย เหรียญเงิน ยกน้ำหนักรุ่น 61 กิโลกรัมชาย 1 เหรียญทองแดง จาก “ออย” สุรจนา คำเบ้า ยกน้ำหนักรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง และ “ส้ม” ดวงอักษร ใจดี ยกน้ำหนักรุ่นมากกว่า 81 กิโลกรัมหญิง ทำให้คนไทยภูมิใจ ดีใจและมีความสุขมากมายมหาศาล
เมื่อเช้าวันที่ 13 ส.ค. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานต้อนรับคณะนักกีฬาทีมชาติไทย ที่กลับจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ที่กรุงปารีส ประกอบด้วย เทควันโด นำโดย “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ และ“บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง เหรียญทองแดง ที่มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 05.55 น. วันที่ 13 ส.ค. โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 931 บรรยากาศการต้อนรับเป็นไปอย่างอบอุ่น นายเสริมศักดิ์กล่าวว่า ผลงานของนักกีฬาไทยครั้งนี้ เป็นความภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ของรัฐบาลและคนไทย ที่นักกีฬาไทยสามารถคว้าเหรียญรางวัลมาได้ทั้งหมด 6 เหรียญ ถือเป็นก้าวหนึ่งในการพัฒนาวงการกีฬาไปสู่เวทีโลก ความสำเร็จครั้งนี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ชัดเจนตั้งแต่การคัดเลือกนักกีฬา การฝึกสอน การพัฒนาและดูแล เชื่อว่าอนาคตนักกีฬาของไทยจะสามารถคว้าเหรียญรางวัลกลับมาได้อีกมาก รัฐบาลเตรียมจัดงานฉลองที่ทำเนียบรัฐบาล หลังจบการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ที่จะมีแข่งขันระหว่างวันที่ 28 ส.ค.-8 ก.ย.พร้อมขอบคุณนักกีฬาที่ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ นำชัยชนะกลับมาฝากคนไทย ส่วนนักกีฬาที่เป็นตัวแทนประเทศไปแข่งขันแต่ไม่ได้เหรียญรางวัล รัฐบาลจะมอบเงินสนับสนุน 100,000 บาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจต่อไป
“เทนนิส” พาณิภัค นักกีฬาประวัติศาสตร์คนแรกของไทยที่คว้าเหรียญโอลิมปิก 3 สมัย และเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัยติดต่อกัน ให้สัมภาษณ์ว่า อบอุ่นและดีใจที่มีคนมารับเยอะมากไม่คิดว่าจะมีคนมาเยอะขนาดนี้ รู้สึกอิ่มเอมจนนอนไม่หลับ ภูมิใจและดีใจมากที่ทำสำเร็จ เป็นประวัติศาสตร์ที่พวกเราร่วมกันเขียนคือ มีชื่อประเทศไทยไปปักอยู่ที่ปารีสในเวทีโอลิมปิก ภูมิใจมากสำหรับความทุ่มเท ความเหนื่อย ที่เต็มที่มากทำให้ได้เหรียญทองกลับมาตอบแทนตนและคนไทย หายเหนื่อยเลย ตอนที่กราบขอบคุณโค้ชเช (ชัชชัย เช หัวหน้าผู้ฝึกสอน) เป็นโมเมนต์ที่เราทำได้ ขอบคุณโค้ชมากๆ ที่ทุ่มเทกับหนู เราเชื่อใจกันมากทั้งตอนซ้อม ตอนแข่งขัน ขอบคุณคนไทยและโค้ชมากๆ
พาณิภัคกล่าวต่อว่า ได้ตัดสินใจแน่นอนแล้วว่า เวทีโอลิมปิกเป็นเวทีสุดท้ายสำหรับชีวิตนักกีฬา มองว่าหนังสือเล่มนี้จบอย่างสวยงามที่สุดแล้ว ตนเต็มที่ในการเขียนหน้านี้เป็นอย่างดีที่สุดแล้ว เล่มที่ชื่อว่า “เทควันโด” ใส่สุดหมดตั้งแต่ก่อนไปจนตอนนี้สมบูรณ์สำเร็จทุกอย่างแล้ว มีความสุข ตอนจบมันโคตรจะสวยงาม ไม่มีอะไรสวยไปมากกว่านี้ อยากจะไปเขียนหนังสือเล่มต่อไป ด้วยการเปิดสอน เทควันโด สาขาที่ 2 ขอฝากทุกคนด้วย ต่อข้อถามถึงเรื่องนักกีฬารุ่นน้องที่จะขึ้นมาทดแทน พาณิภัคระบุว่า น้องๆที่จะมา ก่อนหน้านี้ฝึกซ้อมด้วยกัน เตรียมกันมาเป็นคู่ซ้อมให้ตนโดยตรง คิดว่าน้องๆจะขึ้นมาทดแทนได้ ไม่ต้องกังวล มีแน่นอน
“ถึงแม้หนูจะแข่งขันเป็นแมตช์สุดท้ายไปแล้ว แต่คิดว่าหนูอาจจะเป็นแรงบันดาลใจหรือจุดเริ่มต้นให้ใครหลายคนในการเริ่มต้นเล่นกีฬาเทควันโดหรือทำตามความฝันของตัวเอง หนูอยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกคน ตอนนี้เรามีเวลา เรายังหายใจอยู่ เรายังไม่ตาย เพราะฉะนั้นเราอยากทำอะไรทำให้เต็มที่ในความฝันของตัวเอง เป็นกำลังใจให้กับทุกความฝันของทุกคน” เทนนิส-พาณิภัคกล่าวตอนท้าย
สำหรับอาการบาดเจ็บ จอมเตะสาวไทยวัย 27 ปี กล่าวว่า ตอนจบการแข่งขันไม่มีบาดเจ็บเพิ่มขึ้น อาการบาดเจ็บเป็นเรื้อรังมาหลายปี ถ้าจะผ่าตัดอาจต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานาน บอกตัวเองเสมอว่า ยังไม่อยากผ่าตัด อยากแข่งโอลิมปิกให้เสร็จก่อน ทำหน้าที่ตรงนี้ให้เสร็จก่อน จากนี้จะมีเวลาดูแลร่างกายเยอะขึ้นคงไปทำ MRI ไปเอ็กซเรย์ ไปดูร่างกายอย่างละเอียด เพราะก่อนหน้านี้บอกหมอว่าไม่อยากรู้ว่าเป็นอะไร เพราะถ้ารู้แล้วจะกลัว เพราะเคยไป MRI แล้วรู้ว่าเอ็นไขว้หลังขาด แต่ว่าข้างซ้ายที่มันดังยังไม่ได้ไปดูว่าเป็นอะไร
ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับ “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี อดีตนักกีฬาเทควันโด ที่มีภาพเปิดตัวภายหลังจบการแข่งขันและวันที่เดินทางกลับไทย รามณรงค์ก็มารับแสดงความยินดีด้วย เทนนิสกล่าวว่า ตนกับจูเนียร์เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมายาวนาน ปีนี้เป็น ปีที่ 9 เรื่องความสัมพันธ์ตอนแรกไม่อยากให้ทุกคนโฟกัส เพราะเรา 2 คนมีความฝัน หน้าที่เป็นนักกีฬาทีมชาติกันทั้งคู่ มีความฝันอยากจะไปโอลิมปิกด้วยกัน อยากคว้าเหรียญทองโอลิมปิกด้วยกัน อยากทุ่มเทเต็มที่ไปกับมันเลยไม่อยากบอกใคร แต่ตอนนี้มันเหมือนปลดล็อกสำเร็จไปแล้ว ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์ อยากบอกทุกคนว่าทุกเส้นทางที่ผ่านมา มีจูเนียร์คอยอยู่ข้างๆ เขาโดนตนเตะทุกวัน กว่าจะมีวันนี้เหนื่อยด้วยกันมา ร้องไห้ด้วยกันมา ต่อข้อถามเรียกแฟนได้แล้วใช่หรือไม่ “เทนนิส” ตอบกลับว่า “เดี๋ยวพ่อว่า”
ขณะที่ “จูเนียร์” รามณรงค์ หวานใจของ “เทนนิส” ที่เปิดโรงเรียนสอนเทควันโดด้วยกัน กล่าวว่า เรามีความเชื่อใจกัน เข้าใจกัน เพราะเป็นนักกีฬาเหมือนกัน เวลาลดน้ำหนักเราก็เข้าใจว่ามันหงุดหงิดเป็นธรรมดา เรื่องสุขภาพร่างกายของเทนนิส จริงๆรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ตลอด เพราะเขาอยากจะพร้อมที่สุดในวันแข่งขัน ก็ดูแลด้วยกันเต็มที่ คอยซัพพอร์ตกัน ถ้าถามว่าส่วนไหนที่เป็นห่วงมากที่สุด คงเป็นหลังเข่าที่เอ็นไขว้หลังขาด แต่เขาบอกว่าถ้าออกกำลังกายยังไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่ออกเลย อาจมีอาการบาดเจ็บได้ อยากบอกเทนนิส ว่า ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาตลอด แล้วก็รักนะครับ จุ๊บๆ สื่อมวลชน ถามต่อว่า เรียกแฟนได้เต็มปากเต็มคำแล้วหรือยัง รามณรงค์ตอบว่า “แฟนครับ แฟนครับ” นอกจากนี้ยังถูกถามอีกว่าสบายใจแล้วใช่ไหมที่ได้เปิดตัวหลังจากปิดมานานพอสมควร “จูเนียร์” กล่าวว่า “โล่งใจครับ สบายใจแล้วครับผม”
ผู้คว้าเหรียญมาฝากชาวไทยอีกรายคือ “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักชกสาววัย 23 ปี กล่าวว่า ดีใจมาก มีความสุขมาก รู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่เคยเจอคนและนักข่าวเยอะขนาดนี้มาก่อน ทำให้ตื่นเต้น ความฝันของตัวเองจริงๆ คืออยากได้เหรียญทองกลับมา แต่ถือว่าประสบความสำเร็จอีกก้าวหนึ่ง ที่ได้เหรียญทองแดงกลับมารอบนี้ จันทร์แจ่มยังกล่าวถึงช่วงการแข่งขัน พร้อมเปิดเผยบทสนทนาที่ได้พูดคุยกับอิมาน เคลิฟ นักชกแอลจีเรีย ที่มีประเด็นเรื่องการตรวจเพศและเป็นคู่ชกในรอบรองชนะเลิศ ก่อน จันทร์แจ่มพ่ายไป 0-5 เสียงว่า ตอนแข่งขันก็กดดัน โดยเฉพาะในรอบ 8 คน ตื่นเต้นมาก วันนั้นถ้าชนะก็เข้ารอบ 4 คน พี่คนอื่นเขาต่อยแพ้ไปแล้วเหลือเราคนเดียว คิดว่าเหลือเราคนเดียวแล้วทำให้มีความกดดัน กลัวตัวเองทำไม่ได้อย่างที่คิดไว้ พอทำได้แล้วโล่งเลย ดีใจมาก ในแมตช์กับอิมาน เคลิฟ วันนั้น หนูสู้เต็มที่มีทุกอย่างก็ใส่หมดทั้งแก้เกม วางแผน แต่ต้องยอมรับว่า เรายังต้องพัฒนาอีกก็ไม่เสียใจ และจะกลับไปพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น “วันนั้นต่อยเสร็จเขาเดินมาหาเรามาขอบคุณ มีชมด้วยว่ากล้ามหนูใหญ่ หนูบอกเขาว่า เขาแข็งแรงมาก ก็เลยเป็นการขอถ่ายรูปเก็บไว้”
นักชกสาวเจ้าของเหรียญทองแดงปารีสเกมส์ ยังกล่าวขอบคุณแฟนๆชาวไทยที่ส่งกำลังใจมาให้ว่า ดีใจมากจนพูดไม่ออก สั่นไปหมดแล้ว ขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจให้ตัวเองและตื่นมาดูตนชกตอนตี 3 ขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจให้คอยติดตามทุกทาง “ตื่นเต้นมากครั้งแรกเลยที่มีคนรู้จักเยอะ ส่วนหมอลำ กำลังหาวัน แต่มีคุยกับพี่ก้อง ห้วยไร่ ไว้แล้ว พี่ก้องน่าจะมาร้องเพลงให้ เพราะหนูไปบนหมอลำไว้ต้องมีแน่นอน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดทั้งวัน “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เหรียญทองเทควันโด รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง โอลิมปิก ปารีส 2024 พร้อมด้วย “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย และ “โค้ชเช” ชัชชัย เช ได้เดินสายออกรายการทีวี ให้สัมภาษณ์ถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้น โดยเดินทางมายังที่ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เพื่อออกรายการ เปิดปากกับภาคภูมิและข่าวใส่ไข่ ขณะเดียวกัน ยอดเงินอัดฉีดของจอมเตะสาวไทย วัย 27 ปี ตอนนี้ตัวเลขอยู่ที่ 19.08 ล้านบาทแล้ว โดยมาจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ 12 ล้านบาท, เงินเดือนคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เดือนละ 1.2 หมื่นบาท 20 ปี เป็นเงิน 2.88 ล้านบาท โอสถสภา 1 ล้านบาท นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม 3 ล้านบาท ยาดมหงส์ไทย 2 แสนบาท
อีกด้านวันเดียวกัน สโมสรแบดมินตันบ้านทองหยอด นำ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ เจ้าของเหรียญเงินแบดมินตัน ชายเดี่ยว โอลิมปิกเกมส์ 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และ “เมย์” รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันหญิงทีมชาติไทยที่ทำผลงานยอดเยี่ยมผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายโอลิมปิกเกมส์ ทั้งสองสังกัดสโมสรแบดมินตันบ้านทองหยอดกับโค้ชเป้-ภัททพล เงินศรีสุข เข้าขอบคุณนายภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ที่ให้การสนับสนุนสโมสรฯมาตั้งแต่ปี 2556 จน “วิว” กุลวุฒิ ประสบความสำเร็จ คว้าเหรียญเงินแบดมินตัน ชายเดี่ยว โอลิมปิกเกมส์ 2024 มาครองเป็นเหรียญแรกของไทยในกีฬาแบดมินตัน นอกจากนายภูริแล้ว ยังมีนายปิติ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และพนักงานครอบครัวสิงห์ ร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ที่อาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ ถนนเพชรบุรี กรุงเทพฯ
นายภูริตกล่าวแสดงความยินดีกับ “วิว” กุลวุฒิ ที่คว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกเกมส์เป็นครั้งแรกของแบดมินตันไทย พร้อมทั้งชื่นชม “เมย์” รัชนก และ “วิว” กุลวุฒิ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย รวมถึงสโมสรแบดมินตันบ้านทองหยอดที่สร้างนักแบดระดับโลกคือวิว กุลวุฒิ ขึ้นมาประดับวงการกีฬาเป็นคนที่สอง ต่อจาก “เมย์” รัชนก อินทนนท์ เชื่อว่าสโมสรแบดมินตันบ้านทองหยอดจะยังคงสร้างนักแบดมินตันระดับโลกเพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน
สำหรับบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ได้ให้การสนับสนุนสโมสรแบดมินตันบ้านทองหยอดกับภารกิจ “สร้างนักแบดฯ มือ 1 โลกสัญชาติไทย” มาตั้งแต่ปี 2556 โดยรายการต่อไปของ “วิว” กุลวุฒิ คือรายการ เจแปน โอเพ่น ระหว่างวันที่ 20-25 ส.ค.2567 ณ เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่