ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ใครไม่อยากแก่เร็วมาทางนี้ เพจ “วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี” รวบรวมอาหารชะลอวัยเอาไว้
สำหรับคนวัย 40 ร่างกายจะเริ่มเปลี่ยนแปลง และเสื่อมสภาพไปตามธรรมชาติ เมื่อสมรรถภาพร่างกายลดลง มันก็ส่งผลทำให้เกิดโรคต่างๆตามมาได้
วิธีที่สามารถช่วยชะลอวัยได้คือการทานอาหารพวก “ซุปเปอร์ฟู้ด” ซึ่งเป็นกลุ่มอาหารที่มีสารอาหารสูง มีคุณค่าทางโภชนาการ และที่สำคัญคือมีคุณสมบัติในการชะลอวัย วันนี้มีมาแนะนำ 6 อย่างครับ
1.ถั่วพิสตาชิโอ
สารอนุมูลอิสระในร่างกายจะคอยบ่อนทำลายเซลล์ของเรา ทำให้เกิดการอักเสบ เร่งความแก่ และทำให้เกิดโรคเรื้อรังที่อันตราย อย่างเช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง การวิจัยพบว่าถั่วพิสตาชิโอมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่เยอะมากพอๆกับในบลูเบอร์รี จากการเก็บข้อมูลพบว่าคนที่ทานถั่วชนิดนี้เป็นประจำ จะมีอายุยืนและเกิดการแก่ตัวของร่างกายช้าลง นอกจากนี้ยังมีสารแคโรทีนอยด์ซึ่งช่วยบำรุงสายตาอีกด้วย
2.แซลมอน
แซลมอนเป็นแหล่งรวมลีนโปรตีนที่ดีต่อการรักษามวลกล้ามเนื้อ ซึ่งมีความสำคัญมากในผู้สูงวัย นอกจากนี้กรดไขมันโอเมก้า 3 ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ แถมยังช่วยให้ผู้ที่มีอายุ 40-50 มีประสิทธิภาพในการใช้ความคิดที่ดีกว่าคนที่ไม่ได้รับโอเมก้า 3 อีกด้วย
3.แครนเบอร์รี
ในแครนเบอร์รีมีสารที่ช่วยชะลอความแก่ การวิจัยพบว่าแม้ว่าเราจะได้รับแครนเบอร์รีแค่ถ้วยเล็กๆ วันละ 1 ถ้วย แต่ถ้าได้รับทุกวันติดต่อกัน 3 เดือน จะช่วยเพิ่มความจำและส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท นอกจากนี้แครนเบอร์รียังมีวิตามิน C ที่ช่วยปกป้องผิวจากสารอนุมูลอิสระได้
4.มะเขือเทศ
ในมะเขือเทศมีไลโคปีนที่ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ ที่จะทำให้เราแก่เร็ว การได้รับไลโคปีนจำนวนมากยังช่วยลดระดับคอเลสเทอรอล ช่วยทำให้ระบบหลอดเลือดและหัวใจแข็งแรง ช่วยลดโอกาสเป็นโรคหัวใจ ลดโอกาสหัวใจวาย ลดโอกาสเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก และแน่นอนว่าช่วยชะลอวัยและบำรุงผิวพรรณ คนที่เคยดื่มน้ำมะเขือเทศจะรู้ดีว่าดื่มไปได้สัก 2-3 สัปดาห์ผิวจะเริ่มสว่างกระจ่างใส
5.สตรอว์เบอร์รี
อุดมไปด้วยวิตามินซีและสารประกอบจากพืช ผลการวิจัยพบว่าการได้รับวิตามินซี จะช่วยปกป้องเราจากความเสื่อมวัย มีการค้นพบว่าการทานเบอร์รีมากกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ จะทำให้ความสามารถในการใช้ความคิดของสมองแก่ช้าลง 2.5 ปีเลยทีเดียว นอกจากนี้เบอร์รียังช่วยปกป้องเราจากสารอนุมูลอิสระ โรคหัวใจ และโรคมะเร็งอีกด้วย
6.ผักใบสีเขียวเข้ม
เช่น ผักคะน้า อุดมไปด้วยวิตามิน E และวิตามิน K ซึ่งจะช่วยป้องกันการสูญเสียความทรงจำ และช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง นอกจากนี้ในคะน้ายังมีแคโรทีนอยด์ที่ช่วยบำรุงสายตา และในผักใบเขียวชนิดอื่น เช่น ผักโขม ก็ยังอุดมไปด้วยวิตามิน A และ C ซึ่งช่วยปกป้องหัวใจด้วย.
ยุบสภา
คลิกอ่านคอลัมน์ “เรียงหน้าชน” เพิ่มเติม