โจโจ้
สมาคมกีฬาไทยแฮปปี้ไปตามๆ กัน หลัง “บิ๊กนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จดปากกาลงนามกับ 17 รัฐวิสาหกิจ รวมถึงภาคเอกชนสนับสนุนวงการกีฬาไทย ใน “โครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ พลัส” เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาวงการกีฬาควบคู่ไปกับการผลักดันให้การกีฬาเป็นซอฟต์พาวเวอร์
ถือเป็นการปัดฝุ่นโครงการนี้อีกครั้งตามนโยบาย ของ “พรรคเพื่อไทย” ที่ประกาศไว้ก่อนการเลือกตั้งในการสร้างความเข้มแข็งให้กับวงการกีฬาไทยเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายความสำเร็จระดับโลก
จะว่าไปแล้วนับเป็นข้อดีของวงการกีฬาไทยที่ได้ “บิ๊กนิด” นายกรัฐมนตรี ที่ชื่นชอบเรื่องของกีฬาทำให้เดินหน้าหางบประมาณมาสนับสนุน
โครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ พลัส ไม่ใช่โครงการ ที่ใหม่แต่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในสมัยพรรคเพื่อไทยเมื่อปี 2548 หลังจากหมดยุคพรรคเพื่อไทยดูเหมือนโครงการนี้ก็หยุดชะงักไปเช่นกัน
ส่งผลให้หลายสมาคมเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินในการสร้างนักกีฬาให้กล้าแกร่ง
สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับงบประมาณที่ได้รับจากภาครัฐอย่างการกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น หลายสมาคมต้องดิ้นรนหาเพิ่มเติมเพื่อแลกกับความสำเร็จในระดับนานาชาติ
สมาคมไหนที่ได้นายกที่มี “คอนเนกชัน” ชั้นยอดหรือเป็นนักการเมืองรวมถึงเป็นสมาคมเกรดเอ ปัญหาการขาดสภาพคล่องก็ลดน้อยลงเพราะมีทุนสำรองในการซัพพอร์ตสมาคม
แต่สมาคมไหนที่เล็กการหาสปอนเซอร์เข้ามาสนับสนุนก็ลดน้อยลงไปด้วยเช่นกัน
ระยะเวลา 4 ปีหลังจากการลงนามทั้ง 87 สมาคมกีฬาหายใจโล่งคอขึ้นมาทันที เพราะโครงการต่างๆ ที่วางไว้โดยเฉพาะการสร้างนักกีฬาสามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มรูปแบบโดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังอีกแล้ว
กรอบวงเงิน 1,640 ล้านบาท หรือประมาณ 400 ล้านบาท/ปี ในการสนับสนุนโครงการครั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะไม่เพียงพอหากต้องแลกกับความสำเร็จแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย
อย่างน้อยก็ทำให้ทุกสมาคมสามารถก้าวเดินไปตามฝันที่วางไว้ได้ ส่วนจะสำเร็จมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับปัจจัยอีกหลายอย่างควบคู่กันไป
เหนือสิ่งอื่นใดคือความใส่ใจของประมุขสมาคมกีฬาแต่ละชนิดว่ามีความจริงใจแค่ไหนและนำงบประมาณที่ได้รับไปใช้อย่างเหมาะสมหรือเปล่า.
โจโจ้
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่