ไทยรัฐฉบับพิมพ์
หลายคนอยากรู้ หลายคนมีปัญหา หลายคนพยายามหาทางออกที่ดีมาตลอด เนื้อหาในเรียงหน้าชนฉบับวันนี้ ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก
เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่วาระแห่งชาติ แต่ ถือเป็นวาระแห่งโลกเลยก็ว่าได้
เพจ “วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี” โพสต์ให้ความรู้เอาไว้ ลองไปปรับใช้กันดู
งานวิจัยได้ทำการสำรวจข้อมูลจากกลุ่มคนที่เป็นผู้ชาย 3,906 คน (อายุเฉลี่ย 41 ถึง 45 ปี) และผู้หญิง 2,264 คน (อายุเฉลี่ย 31 ถึง 35 ปี) ซึ่งทุกคนเป็นนักวิ่ง นักปั่นจักรยาน นักว่ายน้ำ และนักกีฬาอีกหลายประเภท
โดยเก็บข้อมูลปริมาณการออกกำลังกายในแต่ละสัปดาห์ มีการทำกิจกรรมทางเพศบ่อยแค่ไหน รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาสมรรถภาพทางเพศของทั้งผู้ชายและผู้หญิง
ผลสำรวจทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า ยิ่งผู้ชาย และผู้หญิงออกกำลังกายมากเท่าไหร่จะส่งผลให้ ประสิทธิภาพในการมีเพศสัมพันธ์ของคู่รักยิ่งดีขึ้นเท่านั้น
สำหรับผู้ชายที่มีน้ำหนัก 70 กก. หากวิ่งด้วยความเร็ว 7 นาที/ไมล์ ให้เผาผลาญแคลอรีได้ประมาณ 4,000 แคลอรีต่อสัปดาห์ หรือ 4.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สามารถลดอัตราการหย่อนสมรรถภาพทางเพศลงเกือบ 1 ใน 4 หรือคิดเป็น 23%
ผู้หญิงก็เช่นกันมีความพึงพอใจในเรื่องอารมณ์ที่ดีขึ้นด้วยการออกกำลังกายในระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ประมาณ 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
สำหรับผู้หญิงที่มีน้ำหนัก 63 กก. การวิ่งด้วยความเร็ว 7 นาที/ไมล์ เป็นเวลา 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จะเทียบเท่ากับการเผาผลาญแคลอรีประมาณ 3,100 แคลอรีต่อสัปดาห์ ซึ่งสามารถลดโอกาสในการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศลง 30%
การออกกำลังกายมากๆ ไม่ได้สร้างความผิดปกติทางเพศมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้สามารถอธิบายได้ในลักษณะเดียวกับที่การออกกำลังกายช่วยให้หัวใจแข็งแรงขึ้นได้
เพราะเมื่อหลอดเลือดแดงแข็งแรง การไหลเวียนของเลือดที่ดีก็จะช่วยให้ทุกส่วนของร่างกายทำงานได้ดีขึ้นนั่นเอง.
ยุบสภา