หน้าแรกแกลเลอรี่

“สมาคมตะกร้อ” ยุติการทำหน้าที่ อ.กมล พร้อมโค้ชทีมชาย-หญิง ชั่วคราว ปมขอเงินอัดฉีด 10 ล้าน

ไทยรัฐออนไลน์

29 ก.พ. 2567 16:38 น.

สมาคมตะกร้อฯ ยุติการทำหน้าที่ของทีมโค้ชชาย-หญิง ชั่วคราว เซ่นปมขอแบ่งเงินอัดฉีดนักกีฬาชุดเอเชียน เกมส์ 2022 10.1 ล้านบาท

วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 จากกรณีที่เป็นประเด็นข่าวหลังจบเอเชียนเกมส์ 2022 กว่างโจวเกมส์ ได้มีการโพสต์ถึงเรื่องการทำข้อตกลงเงินแบ่งอัดฉีดนักกีฬาทีมชาติไทยของกีฬาตะกร้อ จำนวน 30-50% จากจำนวนเงินอัดฉีดที่นักกีฬาแต่ละคนได้รับจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จน “โจ้หลังเท้า” พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ผันสืบ 1 ในคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทยได้ออกมาช่วยเหลือนักกีฬาทีมชาติ พร้อมงัดเอาหลักฐานต่างๆ ว่านักกีฬาแต่ละคนโดนหักไปกี่บาท มีการโอนเข้าบัญชีใคร หรือมีการนัดสถานที่ให้เงินสดกันที่ไหน

หลักฐานการแบ่งเงินอัดฉีดเอเชียนเกมส์ของนักกีฬาตะกร้อทั้งทีมชายและทีมหญิง ในประเภททีมชายได้ 2 เหรียญทอง จากทีมเดี่ยว กับ ทีมชุด รวมเงินที่ได้จากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ 34 ล้านบาท แบ่งเป็นนักกีฬา 5 คนที่เล่นทีมเดี่ยวจะได้คนละ 4 ล้านบาท และนอกนั้นอีก 7 คนที่เล่นแค่ทีมชุดจะได้คนละ 2 ล้านบาท เข้าสู่กระบวนการแบ่งเงินอัดฉีดตามข้อตกลงภายในทีมปรากฏว่า คนที่เล่นทีมชุด 7 คนจะได้ตามปกติคือคนละ 2 ล้านบาท แต่คนที่เล่นทีมเดี่ยวได้เงินคนละ 2.1 ล้านบาท ส่วนเงินจำนวน 9.5 ล้านที่หักออกจากทีมเดี่ยวจะแบ่งให้ 1.ให้นักกีฬา 3 คนที่เดินทางไปจีนด้วยแต่ไม่ได้ลงแข่ง ซึ่งทั้ง 3 คนจะได้คนละ 1.3 ล้านบาท รวมเป็น 3.9 ล้านบาท และ 2.ให้กับนักกีฬาที่เป็นคู่ซ้อมจำนวน 9 คน ซึ่งทั้ง 9 คน จะได้คนละ 2.5 แสนบาท รวมเป็น 2.25 ล้านบาท

โดยทั้ง 2 ข้อนี้ ที่นักกีฬาทีมชายให้เหตุผลว่าเป็นน้ำใจที่เต็มใจแบ่งให้รวมกันคือ 6.15 ล้านบาท แต่เมื่อหักลบจากเงินจำนวน 9.5 ล้านบาท ปรากฏว่าเหลือเงินอีกจำนวน 3.35 ล้านบาท ที่ยังเป็นคำถามว่าหายไปไหน?

ขณะที่ทีมหญิงก็ได้รับเงินอัดฉีดเท่ากับทีมชายเพราะได้ 2 เหรียญทอง (ทีมเดี่ยว กับ ทีมชุด) จำนวน 34 ล้านบาท แบ่งเป็นนักกีฬา 5 คนที่เล่นทีมเดี่ยวจะได้คนละ 4 ล้านบาท และนอกนั้นอีก 7 คนที่เล่นแค่ทีมชุดจะได้คนละ 2 ล้านบาท

แล้วเมื่อเข้ากระบวนการแบ่งเงินอัดฉีดตามข้อตกลงภายในทีม ปรากฏว่า นักกีฬาทีมเดี่ยว 5 คน ได้คนละ 2 ล้านบาท และนักกีฬาทีมชุด 7 คน กับ นักกีฬา 3 คนที่เดินทางไปจีนด้วยแต่ไม่ได้ลงแข่งขันได้คนละ 1.5 ล้านบาท รวมแล้ว 25 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 9 ล้านบาทจะมีการแบ่งให้นักกีฬาคู่ซ้อมจำนวน 9 คน คนละ 2.5 แสนบาท รวมเป็น 2.25 ล้านบาท ทำให้เหลือ 6.75 ล้านบาท ซึ่งก็ยังเป็นคำถามเหมือนกันว่าหายไปไหน?

สรุปได้ว่าเงินของทีมชายหายไปจำนวน 3.35 ล้านบาท และของทีมหญิงหายไปจำนวน 6.75 ล้านบาท โดยเงินทั้ง 2 ก้อนนี้ไม่ได้มีรายงานว่าแจกแจงไปยังนักกีฬาคนไหนเลย ทำให้ "สารวัตรโจ้" ตั้งข้อสังเกตว่าเงินจำนวนดังกล่าวที่ควรเป็นของนักกีฬาอยู่ที่ใคร และเรื่องการหักเงินอัดฉีดนักกีฬาอย่างไม่เป็นธรรมได้เข้าสู่กระบวนการของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ล่าสุด “บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ นายกสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการประชุมสมาคมโดยมีวาระสำคัญคือการตัดสินเรื่องการแบ่งเงินนักกีฬาทีมชาติ โดยมีจำนวนคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 5 คน คือ ดร.สมพงษ์ ชาตะวิถี, รัฐชัย ดารากร ณ อยุธยา, สุพจน์ ตุ้มประชา, อ.สมชาย ประเสริฐศรี และ พล.ร.ท.บุญชิต พูลพิทักษ์ ร่วมประชุม

โดย บิ๊กต้อม ให้สัมภาษณ์ว่า "ในเรื่องเงินฉัดนักกีฬา เพื่อหาข้อเท็จจริง ได้มีการนำเสนอข้อมูลถึงคณะกรรมการบริหารสมาคมแล้ว เพื่อให้กรรมการทุกท่านได้มีเวลาไปตรวจสอบว่าข้อมูลถูกต้องและครบถ้วนหรือไม่ โดยหน้าที่ต่อไปคณะกรรมการบริหารของสมาคมฯ จะนำเรื่องไปสรุปอีกครั้งหนึ่ง"

"แต่วันนี้มีมติการแต่งตั้งเพื่อรองรับสำหรับการแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลกที่ประเทศมาเลเซีย ในเดือนพฤษภาคม, คิงส์ คัพ ในเดือนกันยายน โดยให้ สุพจน์ ตุ้มประชา เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนและผู้จัดการทีม ควบคุมโค้ชจากทหารบก และ ทหารอากาศ 4 รายมาทำหน้าที่คือ สามารถ โพธิ์ทอง, สมพร ใจสิงหล, ประเวศ อินทรา และ อธิยุต กิ้มทอง ซี่งจะควบการทำหน้าที่ไปพร้อมกันกับรายการ เอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาตส์เกมส์ ในเดือนพฤศจิกายน"