ฟ้าคำราม
วิ่งรอบโลกปั่นทั่วไทย พาไปรู้จักอัตราการเต้นของหัวใจ หรือ Heart rate อย่างลึกซึ้ง ซึ่งทางเพจ วิ่งไปด้วยกันนะ ให้ความรู้ในเรื่องนี้ไว้เป็นอย่างดี
อัตราการเต้นของหัวใจในการวิ่งหมายถึงจำนวนครั้งที่หัวใจเต้นใน 1 นาทีเป็นตัวบ่งชี้ถึงความหนักเบาของการออกกำลังกาย ซึ่งสามารถบอกได้ว่าร่างกายกำลังเผาผลาญพลังงานมากน้อยแค่ไหน โดยปกติแล้วอัตราการเต้นของหัวใจ จะเพิ่มขึ้นเมื่อออกกำลังกายและลดลงเมื่อพัก
Heart rate ที่เหมาะสมในการวิ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ เพศ ระดับความฟิต เป้าหมายการวิ่ง และสภาพอากาศ โดยทั่วไปแบ่งเป็น 5 โซน โซน 1 การฟื้นฟูร่างกาย (50-60% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด) เหมาะสำหรับการวอร์มอัป คูลดาวน์ และพักฟื้น รู้สึกสบายๆ โซน 2 เผาผลาญไขมัน (60-70% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด) เหมาะสำหรับการวิ่งระยะไกล รู้สึกหายใจสบายๆ พูดเป็นประโยคยาวๆได้โซน3 คาร์ดิโอ (70-80% ของอัตราการเต้นของหัวใจ
สูงสุด) เหมาะสำหรับการวิ่งเพื่อเพิ่มความอึด รู้สึกหายใจเร็ว พูดเป็นประโยคสั้นๆได้ โซน 4 ความเร็ว (80-90% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด) เหมาะสำหรับการวิ่งระยะสั้น รู้สึกหายใจถี่ พูดเป็นคำสั้นๆ ได้ โซน 5 ความเร็วสูงสุด (90-100% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด) เหมาะสำหรับนักกีฬาที่ฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น รู้สึกหายใจลำบาก พูดไม่ได้
วิธีการหาอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด สูตร 220-อายุ (สำหรับผู้ชาย) สูตร 209-0.7×อายุ (สำหรับผู้หญิง) ตัวอย่าง ผู้ชายอายุ 30 ปี อัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด=220-30=190 ผู้หญิงอายุ 30 ปี อัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด=209-(0.7×30)=182
ประโยชน์ของการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ช่วยให้วิ่งอย่างปลอดภัย โดยไม่หักโหมจนเกิดอันตราย ช่วยให้กำหนดเป้าหมายการวิ่งได้อย่างเหมาะสม วิธีการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ จับชีพจรที่ข้อมือ คอ หรือหน้าอก นับจำนวนครั้งที่หัวใจเต้นใน 1 นาที ใช้เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เช่น นาฬิกาวิ่ง
ข้อควรระวังไม่ควรวิ่งจนอัตราการเต้นของหัวใจสูงเกินโซนที่เหมาะสม หยุดวิ่งทันทีหากรู้สึกไม่สบาย เช่น หน้ามืด ใจสั่น หายใจลำบาก การวิ่ง เป็นการออกกำลังกายที่ดีต่อสุขภาพ แต่ควรวิ่งอย่างถูกวิธี และควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยa
ฟ้าคำราม
socialfox@hotmail.com
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่