หน้าแรกแกลเลอรี่

โจทย์ยากของ “มูรินเตี้ย”

บี บางปะกง

2 ก.พ. 2567 08:41 น.

จบจากลุ้น ทีมชาติไทย ในศึกลูกหนังเอเชี่ยนคัพ 2023 กันไปแล้ว

โฟกัสของแฟนบอลบ้านเรา ก็คงกลับมาอยู่ที่ศึกไทยลีก

ที่กำลังจะเปิดฉากดวลแข้งเลกที่สองกันแล้ว ในปลายสัปดาห์หน้า

โดยข่าวคราวการเสริมทัพของแต่ละสโมสรตั้งแต่ตลาดเปิดยันตลาดปิด มีให้ได้ฮือฮากับเป็นระลอก

แต่ที่เซอร์ไพรซ์ล่าสุด กลับไม่ใช่เรื่องของนักเตะ

กลายเป็นการเปิดตัวกุนซือคนใหม่ของทัพ “ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ เอฟซี

กับการคัมแบ็กคืนสังเวียน กลับมาคุมทีมอีกครั้งในรอบเกือบหนึ่งปี

ของ “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ

หลังจากที่เจ้าตัวโบกมือลา ชลบุรี เอฟซี มาตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว

เพื่อรับผิดชอบกับผลงานที่ย่ำแย่ของทีมฉลามชลในช่วงนั้น

ซึ่งเจ้าตัวได้ตัดสินใจเดินออกมา เพื่อเปิดโอกาสให้สโมสรเกิดความเปลี่ยนแปลง

ก่อนที่จะใช้เวลาว่างไปเรียนโค้ชโปรไลเซนส์จนจบหลักสูตรเรียบร้อย

พร้อมแล้วสำหรับการทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนของทีมฟุตบอลอาชีพในลีกสูงสุด...อย่างเต็มตัว!

โดยก่อนหน้านี้ “โค้ชเตี้ย” ไม่ได้ไปคุมสโมสรไหนเลย

นอกจากรับหน้าที่เป็นประธานเทคนิคให้ทีม จามจุรี ยูไนเต็ด ในไทยลีก 3 โซน กทม.และปริมณฑล เท่านั้น

แต่ก็มีข่าวลือมาเป็นระยะว่าทีมสโมสรในไทยลีกต้องการจะดึงเจ้าตัวไปกุมบังเหียน

รวมถึง ทีมชาติไทย ช่วงที่ มาโน่ โพลกิ้ง แยกทางใหม่ๆ ก็เคยมีข่าวมาแล้วว่า โค้ชสะสม ก็เป็นทางเลือกนึงที่น่าสนใจ

จนสุดท้าย...คำเฉลยก็ออกมาที่สามอ่าว สเตเดี้ยม

ซึ่ง “โค้ชเตี้ย” ได้เดินทางไปเจรจาถึงประจวบฯ ก่อนที่ดีลนี้จะจบลงได้แค่วันเดียว

ปรากฎเป็นภาพเปิดตัวในสีเสื้อต่อพิฆาต..อย่างรวดเร็วทันใจ อย่างที่ทุกคนได้เห็นกัน

โดยโค้ชเจ้าของฉายา “มูรินโญเมืองไทย” เปิดใจกับผมว่า....

ที่เขาตัดสินใจมารับงานคุม พีที ประจวบฯ ในคราวนี้

ก็เพราะมีความศรัทธาในตัวของ “บิ๊กเกียร์” ทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์ ประธานสโมสร เป็นทุนเดิม อยู่แล้ว

ยอมรับว่า ภารกิจนี้เป็นงานยาก และท้าทายที่สุด อีกครั้งนึงในชีวิต

กับการกู้วิกฤติของทีมให้หนีจากโซนตกชั้นให้ได้

ที่ผ่านมา 15 นัดแรก ต่อพิฆาต เก็บได้เพียง 10 แต้ม จมบ๊วยสนิทอยู่ก้นตารางมาตลอด

จนต้องเปลี่ยนโค้ชมาแล้วถึง 3 คน ไล่ตั้งแต่ “โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล , โบซิดาร์ บันโดวิช

และ “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน ผอ.เทคนิคของสโมสรที่ถูกดันขึ้นมาขัดตาทัพในช่วงท้ายเลกแรก

ซึ่งอารมณ์การทำทีมแบบ ชลบุรี เอฟซี ที่เน้นสร้างดาวรุ่งเป็นหลัก งานถนัดของ “โค้ชเตี้ย”

คงนำมาใช้ไม่ได้ กับสถานการณ์ของประจวบในตอนนี้

ดังนั้นโจทย์ของกุนซือ “คนโตตัวเล็ก” กับครึ่งทางหลังที่เหลือ มีเพียงอย่างเดียว

คือต้องเก็บคะแนนจากคู่ต่อสู้ให้เป็นกอบเป็นกำมากที่สุด ในทุกๆแมตช์

เพื่อโอกาสรอดตายจากการเป็น 1 ใน 3 ทีม ที่ต้องร่วงไปเล่นลีกรองในฤดูกาลหน้า

ซึ่งเจ้าตัว คงต้องงัดกลยุทธโชว์ฝีไม้ลายกึ๋น บวกประสบการณ์ทั้ง “บู๊” และ “บุ๋น”ที่มีอยู่

ออกมาใช้ในทุกกระบวนท่า...แบบไม่ต้องคิดเยอะแต่อย่างใด

เพราะ “โค้ชเตี้ย” บอกเองว่า ด้วยขุมกำลังและเชฟของทีมที่“โค้ชโอ่ง”ได้สร้างไว้แล้วในตอนนี้

เชื่อว่าตนจะเข้ามาเปลี่ยนแนวคิด และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เล่นทุกคน

ให้มีความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ ได้แน่!

โดยบททดสอบเกมแรก ที่ “โค้ชสะสม” ต้องเจอ คือแมตช์ประเดิมไทยลีกเลกสองของต่อพิฆาต

ที่ต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมแกร่ง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในวันเสาร์ที่ 10 ก.พ.67

ซึ่งแมตช์นี้น่าสนใจสุดๆ ตรงที่ กุนซือเดอะแรบบิตที่จะคุมทัพมาบุกสามอ่าว ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน

เพราะเขาคือ “โค้ชเทกุ” มาโกโตะ เทกุระโมริ อดีตเฮดโค้ชฉลามชล คนกันเอง

เหมือนกับ “มูรินเตี้ย” นั่นแหละ!

ที่ต้องโคจรมาเจอกันเป็นประเดิม อะไรมันจะช่างบังเอิญ โป๊ะเชะ...ขนาดนั้น

เรียกว่าหลังจบแมตช์นี้ไปแล้ว ไม่ว่าใครแพ้ ใครชนะ
P ต้องมีประเด็นให้พูดถึงกันต่อแน่...รับรองเลย !!!

บี บางปะกง
joggingboy_be@yahoo.com