ฟ้าคำราม
หลังทราบที่ไปที่มาของอาการเจ็บขาหนีบในเบื้องต้น จากเพจ ThaiRun ฮับความสุขนักวิ่ง ใน วิ่งรอบโลกปั่นทั่วไทย ฉบับเมื่อวานแล้ว วันนี้มาว่ากันต่อถึงสิ่งที่ควรรู้จากอาการดังกล่าว มีอะไรอีกบ้าง สาเหตุอาการเจ็บขาหนีบในนักวิ่ง อาจเกิดจากโครงสร้างของร่างกายที่ไม่ปกติ เช่น ความยาวขาไม่เท่ากัน ท่าทางการวิ่งที่จะต้องอยู่ในท่างอและเหยียดสะโพกอย่างต่อเนื่องในท่าเดิมซ้ำๆ ทำให้เกิดการบาดเจ็บเล็กๆ สะสมระหว่างวิ่ง อาจทำให้กล้ามเนื้อถูกใช้งานมากเกินไป ทำให้มีอาการล้าจนเกิดการบาดเจ็บ การเปลี่ยนทิศทางและจังหวะการวิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเร่งหรือชะลอความเร็วระหว่างวิ่ง ล้วนส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้องอสะโพก ยิ่งเมื่อเร่งความเร็วขึ้นอย่างเช่น จังหวะ Splint ยิ่งทำให้ต้องใช้กำลังกล้ามเนื้องอสะโพกมากขึ้น ไม่ยืดเหยียดหรือยืดเหยียดกล้ามเนื้อไม่เพียงพอก่อนการวิ่ง เนื่องจากลักษณะการใช้งานของข้อสะโพกในชีวิตประจำวันจะอยู่ในท่างอสะโพกเป็นส่วนใหญ่ เช่น ท่านั่ง ท่าเดิน ทำให้กล้ามเนื้องอสะโพกอยู่ในท่าหดสั้น เกิดความตึงตัวได้มากขึ้น เพิ่มโอกาสเสี่ยงในการบาดเจ็บได้
การทำงานของกล้ามเนื้อไม่สมดุล ซึ่งมีความสัมพันธ์ระหว่างความแข็งแรงของกล้ามเนื้องอสะโพก กล้ามเนื้อหน้าท้อง และกล้ามเนื้อต้นขา การเคลื่อนไหวของข้อต่อลดลง หรือมีการยึดติดของข้อต่อกระดูกสันหลังส่วนล่าง กระดูกเชิงกราน ที่ส่งผลต่อความตึงตัวของกล้ามเนื้องอสะโพก สถานที่วิ่ง พื้นผิวเส้นทางวิ่ง ไม่ว่าจะเป็นทางลาดชัน ขึ้น-ลง เนินเขา ล้วนมีผลต่อมุมการเคลื่อนไหวของการงอสะโพกทั้งสิ้น
การรักษา พักการวิ่งเพื่อลดแรงที่กระทำต่ออาการเจ็บ เลือกใช้ความร้อน ความเย็นในการรักษาให้เหมาะสม โดยใช้ความเย็นเมื่อมีการอักเสบ ใช้ประคบประมาณ 15 นาที ใช้การรักษาทางกายภาพบำบัด โดยเน้นการยืดเหยียดคลายกล้ามเนื้อเมื่อมีความตึงตัว และเพิ่มความแข็งแรงในกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องการออกกำลังกายทางกายภาพบำบัด โดยเน้นฝึกการเคลื่อนไหวให้มีแบบแผนการทำงานของกล้ามเนื้อ และข้อต่อที่ปกติ ใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัดในการรักษาเพื่อลดอาการปวด หรือเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ เช่น เครื่องอัลตราซาวด์ เครื่องเลเซอร์ ใช้ยาลดปวดกลุ่ม NSAIDs ฉีดสเตียรอยด์ในการรักษา หรือหากอาการยังไม่ดีขึ้นอาจต้องใช้การผ่าตัดร่วมด้วย
ฟ้าคำราม
socialfox@hotmail.com