ฟ้าคำราม
คิดแบบ “แชมป์โลก” สำหรับนักกีฬาแล้ว การคว้า “แชมป์โลก” ที่เปรียบเสมือนเป็นเครื่องหมายการันตีว่าคุณคือ “ที่สุดของโลก” ในชนิดกีฬานั้นๆ ถือว่าเป็นเป้าหมายสูงสุดที่นักกีฬาทุกคนต่างใฝ่ฝันจะไปให้ถึง
แต่การจะขึ้นเป็น “เบอร์หนึ่ง” ของโลกได้นั้น ไม่เพียงแต่จะต้องมีทักษะทางด้านกีฬา และสภาพร่างกายที่เหนือกว่าคนอื่นเท่านั้น แต่ทัศนคติและสภาพจิตใจถือเป็นองค์ประกอบสำคัญไม่แพ้กัน
กุลวุฒิ วิทิตศานต์ (แบดมินตัน) และพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (เทควันโด) เจ้าของรางวัลนักกีฬาดีเด่นสมัครเล่นชาย-หญิง ในวันกีฬาแห่งชาติ 2566 ซึ่งต่างประสบความสำเร็จคว้าแชมป์โลกมาแล้ว
มีทัศนคติอย่างไรในชีวิตของการเป็นนักกีฬามากว่า 10 ปี ก่อนก้าวไปสู่ตำแหน่ง “สูงสุด” ของโลก...
วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์
“เวลาที่เราแพ้ หรือพลาด ให้มองย้อนไปที่เป้าหมายในวัยเด็กและในเวลานี้ ถ้าเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลงก็ตั้งใจซ้อมต่อไป แล้วเตือนสติตัวเองตลอดเวลา หากเบื่อก็ต้องทำใจ เพราะต้องอยู่แบบนี้ทุกวัน”
“ทำทุกอย่างให้เต็มที่ เมื่อไหร่ที่เกมยังไม่จบ อย่าไปยอมแพ้ ถ้ายังไม่แพ้ มันก็ยังไม่แพ้ ทุกอย่างเป็นไปได้หมด”
เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ
“ก่อนแข่งโอลิมปิก หนูซ้อมหนักมาก ร้องไห้ทุกวัน มันเหนื่อยและเจ็บด้วย มีบางครั้งไม่ไหว แต่บอกตัวเองให้สู้ มันก็แค่เหนื่อย นอนพัก เดี๋ยวก็หาย เพราะเรามีเป้าหมายชัดเจนคือ เหรียญทองโอลิมปิก ทุกวินาทีที่เราหยุดแต่คู่ต่อสู้ซ้อม เราก็จะตามเค้าไม่ทัน”
“เวลาแข่งให้อยู่กับปัจจุบัน ไม่คิดถึงผลแพ้ชนะ ทุกอย่างอยู่ที่เท้าเรา ทำทุกอย่างให้เต็มที่ แล้วไม่มีอะไรจะต้องเสียใจ” เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2020 และเจ้าของแชมป์โลก 2 สมัยกล่าว
ถือเป็นแนวคิดดีๆที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับในโอกาสวันขึ้นปีใหม่นี้
@@@@@@@
เพจ ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ Elite Sports Development Department ของฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้สะท้อนมุมมองของนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ ก้าวไปถึงจุดสูงสุด ว่ามีวิธีคิดเป็นอย่างไร
โดยเฉพาะกับการต้องซ้อม ซ้อม และซ้อม อย่างหนัก และการเจอกับอุปสรรคต่างๆนานา จะผ่านจุดนั้นให้ได้ ต้องคิดเช่นไร
ถือเป็นตัวอย่างที่สำคัญให้กับน้องๆเยาวชน ที่กำลังเติบโตว่า ต่อให้เก่งแค่ไหน แต่ถ้าเอาชนะตัวเองไม่ได้ อดทนไม่ไหว
ก็ยากที่จะไปถึงสิ่งที่ใฝ่ฝันเอาไว้...
ฟ้าคำราม
คลิกอ่านคอลัมน์ “เรียงหน้าชน” เพิ่มเติม