ฟ้าคำราม
วิ่งรอบโลกปั่นทั่วไทย แชร์ความรู้ดีๆ มาจากเพจ RUN ไปเรื่อยๆ ระบุว่า PM 2.5 เยอะขนาดนี้ควรงดวิ่งนอกบ้านก่อน อย่าลืมว่าเราวิ่งเพื่อสุขภาพ โดย นายแพทย์เอกภพ เพียรพิเศษ โฆษกคณะกรรมาธิการ กมธ. การสาธารณสุข เตือนไว้ก่อนหน้านี้ว่า จากการศึกษาข้อมูลพบว่า การออกกำลังกายกลางแจ้งในภาวะมลพิษทางอากาศนั้น ยังพอทำได้ ด้วยการพิจารณาทั้งในส่วนของระดับมลพิษ ความหนักของการออกกำลังกาย และเวลาที่ใช้ในการออกกำลังกาย
มีคำแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า ถ้าจะต้องออกกำลังกายกลางแจ้งในเขตมลพิษ ทางที่ดีควรออกกำลังกายในสวนสาธารณะหรือในที่ห่างจากถนน รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในช่วงที่มีการจราจรคับคั่งด้วย สรุป คือ การออกกำลังกายกลางแจ้งในที่ที่มีมลพิษทางอากาศถือเป็นความเสี่ยงต่อสุขภาพ แต่ถ้าหากหากิจกรรมออกกำลังกายในร่มทดแทนไม่ได้ ก็ควรจะต้องทราบระดับของมลพิษในขณะออกกำลังกายนั้น เพื่อปรับความหนักเบาและเวลาของการออกกำลังกายให้เหมาะสม และควรเลือกสถานที่ออกกำลังกายรวมทั้งช่วงเวลาในการออกกำลังกายด้วย
เรื่องน่ากังวลอีกเรื่อง มีนักวิ่งหลายท่านคิดว่าใส่หน้ากาก N95 วิ่งกลางแจ้งได้ เรื่องนี้ พญ.สัจจพร อินทร์นิพัฒน์ วิสัญญีแพทย์ หนึ่งในแพทย์สาขาที่เชี่ยวชาญเรื่อง Breathing Circuit แสดงความคิดเห็นและเตือนถึงการสวมใส่หน้ากาก N95 เพื่อวิ่งออกกำลังกายว่า จะทำให้แรงต้านอากาศเวลาหายใจเพิ่มขึ้น คือ เวลาหายใจเข้า กล้ามเนื้อจะใช้แรงมากขึ้น เวลาหายใจออกจะใช้ Elastic Recoil หรือสภาวะที่ทรวงอกยุบสู่สภาพเดิมหลังจากการหายใจออก (ภาวะปกติ)
ดังนั้น ถ้าพยายามหายใจออกเยอะจะเหนื่อย เพราะการหายใจออก อากาศจะไม่หมดจากหน้ากาก ทำให้ลมหายใจที่ออกนั้นมีออกซิเจนต่ำ คาร์บอนไดออกไซด์สูงค้างอยู่ในหน้ากาก เมื่อหายใจเข้ารอบหน้าจะนำอากาศส่วนนี้ ซึ่งเรียกว่า Rebreathing (กระบวนการหายใจเมื่อมีหน้ากากหรืออุปกรณ์ครอบ) เข้าไปด้วยทำให้การหายใจนั้นได้รับคาร์บอนไดออกไซด์ที่หลงเหลืออยู่ภายในหน้ากากมากกว่าปกติ และในขณะที่ออกกำลังกาย Rebreathing จะใช้ออกซิเจนมาก ทำให้ร่างกายผลิตคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าปกติ จุดนี้เองที่มันจะค่อยๆ ส่งผลต่อเนื่องในการหายใจครั้งต่อไป ทำให้ขาดออกซิเจน และมีคาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกายมากเกิน หมดสติ เสียชีวิตได้ อันตรายมาก ข้อมูลจาก FB : Ekkapob Pianpises
ฟ้าคำราม
socialfox@hotmail.com
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่