หน้าแรกแกลเลอรี่

รูดม่าน “มาราธอน แบงค็อก” บิ๊กอีเวนต์โปรโมตเที่ยวไทย

ลมกรด

5 ธ.ค. 2566 05:36 น.

ปิดฉากลงอย่างงดงามสำหรับการแข่งขันวิ่งมาราธอน Amazing Thailand Marathon Bangkok 2023 presented by TOYOTA หรือแข่งขันวิ่งผ่าเมือง (ครั้งที่ 6) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ในฐานะผู้อำนวยการจัดการแข่งขันและเจ้าบ้าน ถือว่าไทยประสบความสำเร็จสร้างชื่อเสียงและความเชื่อมั่นต่อสายตาชาวโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ

รายการนี้มีนักวิ่งเข้าแข่งขัน 26,819 คน เป็นคนไทย 21,507 คน และต่างชาติ 5,312 คน จาก 73 ประเทศ ไฮไลต์อยู่ที่การวิ่งมาราธอนระยะ 42.195 กิโลเมตร จุดสตาร์ตจากสนามราชมังคลากีฬาสถาน วิ่งผ่ากลางเมืองไปเข้าเส้นชัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผู้ชนะเลิศประเภทบุคคลทั่วไปชายคือ Wendwesen Tilahun Damte ชาวเอธิโอเปีย ทำเวลา 2.22.50 ชั่วโมง ผู้ชนะเลิศประเภทบุคคลทั่วไปหญิงคือ Tsega Desta ชาวเอธิโอเปีย เวลา 2.49.16 ชั่วโมง ผู้ชนะเลิศประเภทบุคคลทั่วไปชายไทยคือ สัญชัย นามเขต เวลา 2.34.45 ชั่วโมง ผู้ชนะเลิศประเภทบุคคลทั่วไปหญิงไทยคือ ลินดา จันทะชิต ทำเวลา 3.06.53 ชั่วโมง

การแข่งขันวิ่งมาราธอน Amazing Thailand Marathon Bangkok (ATMBKK) เป็นงานใหญ่ระดับโลก แม้ไม่ได้อยู่ใน 6 รายการเมเจอร์ได้แก่ Tokyo Marathon, Boston Marathon, London Marathon, Berlin Marathon, Chicago Marathon และ New York City Marathon แต่ก็ถูกบรรจุใน ซีรีส์เก็บสะสมคะแนนการวิ่งมาราธอนในเมืองหลวง The Official Capital Marathon Series ซึ่งสมาคมกรีฑาโลก (World Athletics) มีแผนจะยกระดับการแข่งขันวิ่งมาราธอนในเมืองหลวงให้เป็นมาราธอนระดับเทียบเท่ามาราธอนเมเจอร์

คุณอเลซิโอ พุนซี ผอ.อาวุโสสมาคมกรีฑาโลก ระบุว่า รายการ ATMBKK ได้ถูกบรรจุเป็น 1 ในมาราธอนซีรีส์เก็บสะสมคะแนน ซึ่งจะเลือกเมืองหลวงเพียง 10 แห่งบรรจุในซีรีส์ และรายการนี้จะเป็น Final Race เริ่มจากปีหน้าเป็นต้นไป

การจัดงานใหญ่ระดับนี้ให้สำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย งานนี้ต้องยกเครดิตให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย (ททท.) กรุงเทพมหานคร สมาคมกรีฑาโลก ตำรวจนครบาล การกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทย ไทยแลนด์ไตรลีก และสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนรายการ รวมถึงชาว กทม.ที่ร่วมเป็นเจ้าบ้านดูแลต้อนรับนักวิ่งชาติต่างๆอย่างเป็นกันเอง

ช่วงนี้ยังเป็นโอกาสดีของนักวิ่งต่างชาติที่จะได้เที่ยวงาน “วิจิตร เจ้าพระยา” ที่ ททท.จับมือพันธมิตรภาครัฐและเอกชน แต่งแต้มสีสันแนวแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนด้วยนวัตกรรม แสง สี และสื่อผสมสมัยใหม่ ทั้งการประดับไฟ การฉายภาพบนตัวอาคาร การแสดงพลุ การแสดงทางวัฒนธรรม ณ สถานที่สำคัญ 7 พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงระหว่างสะพานกรุงธน-สะพานพระราม 3 ตลอดเดือน ธ.ค.นี้

ทั้งงานวิ่งผ่าเมือง ATM BKK และงานวิจิตร เจ้าพระยา ถือเป็น 2 ใน 5 บิ๊กอีเวนต์กระตุ้นเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ไม่เพียงดูดเม็ดเงินสร้างรายได้ ทั้งยังโปรโมตประเทศ และสื่อให้ทั่วโลกรู้ว่าเดินทางมาไทยปลอดภัยไร้กังวล

รัฐบาลนี้สร้างกระแสด้านการท่องเที่ยวได้อย่างมีพลัง และขณะนี้เริ่มมองแผนการท่องเที่ยวปีหน้าแล้ว คุณแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กว่า แผนงานใหญ่ปีหน้าวันสงกรานต์จะไม่ใช่แค่เทศกาลแบบในอดีต แต่จะจัดงานใหญ่มหาสงกรานต์ World Water Festival-The Songkran Phenomenon ปักหมุดให้เป็นเทศกาลที่คนทั้งโลกต้องบินมาเล่นน้ำสงกรานต์ที่บ้านเรา จะไม่เล่นน้ำแค่ 3 วัน แต่จัดงานกันทั้งเดือน ทยอยจัดทั้งประเทศ 77 จังหวัด เราจะมาร่วมกันทำให้ประเทศไทยติด 1 ใน 10 ประเทศสุดยอดเฟสติวัลโลก

ผมไม่แน่ใจว่าแต่ละจังหวัดจะมีอัตลักษณ์การเล่นน้ำสงกรานต์ที่มีเสน่ห์พอจะสร้างอีเวนต์ได้ครบทั้ง 77 จังหวัดหรือไม่ แต่ที่อยากเสนอคือควรมีเวทีกลางที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว ถนนราชดำเนินเป็นแลนด์มาร์กที่น่าสนใจที่สุด จัดขบวนนพมาศ การแสดงวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ เล่นสาดน้ำกันให้ชุ่มฉ่ำ ปิดถนนจัดงาน 7 วันไปเลยครับ.

ลมกรด

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม