ไทยรัฐออนไลน์
เดือดมากวงการตะกร้อทีมชาติไทย เพราะมีคนมาโต้กลับ สืบศักดิ์ ผันสืบ เรียบร้อยแล้ว
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 หลังจากที่ สืบศักดิ์ ผันสืบ, สุริยัน เป๊ะชาญ, พูลศักดิ์ เพิ่มทรัพย์ และ สมพร ใจสิงหล ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนการทำหน้าที่ของ ผู้จัดการทีมชาติไทย, ผู้ฝึกสอน ทีมตะกร้อทีมชาติไทย ที่ไม่โปร่งใส และมีการเรียกรับเงินจากนักกีฬาทั้งในอดีตและปัจจุบัน กับ โดยมี นายบุญชัย หล่อพิพัฒน์ อุปนายกสมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ณ ห้องประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย (บ้านอัมพวัน) เวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา และได้มีการให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการหักหัวคิวว่า เงินรางวัลในศึก เอเชียน เกมส์ 2023 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ทีมชุดชาย (12 คน) และ ทีมเดียวชาย (5 คน) ที่ได้เหรียญทองทั้งคู่ จะได้เงินรวม 34 ล้าน (คนละ 2 ล้านบาท) โดยทีมชุดหญิง และทีมเดี่ยวหญิง ที่ได้รวม 2 เหรียญทอง ก็จะได้เงินเท่ากัน
โดยโค้ช มี 3 คน จะได้เงินจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ 20% คือ 5.8 ล้านบาท (ประมาณ 1.93 ล้านบาท) ตามเงินรางวัลจากนักกีฬาที่ได้รับจากการแข่งขันอยู่แล้ว
แต่ยังมีการมาหักเงิน 50 เปอร์เซ็นต์ จากประเภททีมเดี่ยวทั้งชายและหญิงรวม 10 ล้านบาท (ทีมละ 5 ล้านบาท) โดยอ้างว่า จะนำเงินไปให้นักกีฬาที่ไม่ได้ติดทีมมา เพราะเป็นคู่ซ้อม แต่มาดูสุดท้ายทีมชายเงินหายไป 3.3 ล้านบาท ส่วนทีมหญิง หายไป 6.75 ล้านบาท
ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีมานานกว่า 10 ปี ตั้งแต่ตนยังเป็นนักตะกร้อทีมชาติไทยอยู่ด้วย
ล่าสุด อนุวัฒิ ชัยชนะ อดีตนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า "ผมเห็นข่าวในสื่อวงการตะกร้อบ้านเราเรื่องเงินอัดฉีด ส่วนตัวผมที่เล่นให้ทีมชาติมาตลอด และผมก็เป็น 1 ในนั้นมา 10 กว่าปีที่มีข่าวนั้น ผมไม่เคยติดใจหรือคิดว่าผมโดนเอารัดเอาเปรียบอะไร ส่วนที่ผมเคยแบ่งให้ ผมให้ด้วยความเต็มใจนะ และผมไม่คิดมากด้วยว่าผมจะต้องได้มากกว่านี้ ผมเห็นพี่ เพื่อน น้องหรือโค้ชในทีม ซ้อมด้วยกันมาผ่านโปรมแกรม ฝึกซ้อมต่างๆ มา กินนอนอยู่ด้วยกันมา ผมรักและเคารพทุกท่าน ให้เกียรติทุกท่าน เมื่อผมได้รับมาผมก็อยากให้ทุกๆ คนได้รับ ทั้งคนที่ได้เหรียญเดียว หรือไม่ติดไปแข่งเลย และผมก็ขอแสดงจุดยืนของผม ตรงนี้ 10 กว่าปีที่ผ่านมาผมก็ให้มาตลอด บางคนที่ตอนนี้ติดก็เคยเป็นผู้รับมาก่อน ได้รับทั้งโอกาสได้รับทั้งเงิน ใครมาอยู่จุดนี้ผมคิดว่ามีแต่เรื่องดีไม่มีเรื่องให้ต้องเสียหายอะไร รู้จักให้รู้จักรับ ผมรู้สึกว่ามันเป็นสังคมที่มันดีมากนะดูแลกันไป ส่วนคนที่ยังติดทีมชาติอยู่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ ก็ออกไปพูดได้เลยครับ เพื่อความสบายใจของท่านเอง เพราะนโยบายก่อนทำก็ได้มีการประชุมกันอยู่แล้วมีการโหวตกันก่อนงานแข่งเริ่มกันซะอีก ในช่วงที่ผมอยู่ ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงมีปัญหาแบบนี้ออกมา ผมคิดว่าใครรู้สึกไม่สบายใจหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ออกไปพูดเลยครับ แต่ผมสบายใจที่ได้ให้ครับผมไม่คิดจะทำร้ายใครหรือให้ร้ายใครครับ ถ้าใครถามผม ผมก็พูดแบบนี้แหละครับ ผมอยากให้ ใครได้มากได้น้อยก็แล้วแต่งานแล้วแต่จำนวนคน ผมมาอยู่จุดนี้ได้ก็เพราะทีมครับ ทั้งโค้ช ทั้งเพื่อนร่วมทีมหรือคู่ซ้อม ทั้งพี่น้องทุกท่านที่อยู่ในทีม ขอบคุณทุกท่านมากๆ ครับที่ให้การช่วยเหลือเรื่องการบาดเจ็บการกายภาพ นักกีฬาพอเจ็บมามันไม่มีใครมาให้ค่าหรอกครับ หมาล่าเนื้อตัวนึง มีแต่โค้ชและทีมตะกร้อทีมชาตินี่แหละครับที่ดูแลและช่วยเหลือ รักและเคารพทุกท่านเหมือนเดิมครับ"