เบี้ยหงาย
การไปเยือนซาอุดีอาระเบียครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีไทย “บิ๊กนิด” เศรษฐา ทวีสิน ถือว่าได้น้ำได้เนื้อและมีเรื่องที่เป็นประโยชน์มากมาย รวมถึงที่มาพาดพิงในมุมของกีฬา อย่างน้อยก็มีความชัดเจนยิ่งและชัดอย่างรวดเร็วเสียด้วย
กับการประกาศถอนตัวของภูมิภาคอาเซียน ที่เคยมีความคิดจะยื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2034 และยืนยันในการสนับสนุน ซาอุดีอาระเบียให้เป็นเจ้าภาพอย่างที่ต้องการ
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน ครั้งท่านนายกฯได้มีโอกาสพบกับประธานฟีฟ่า จานนี อินฟานติโน ที่สหรัฐอเมริกา ยังมีการสื่อถึงการที่อาเซียนจะเสนอตัว ในบริบทที่ไทยเราเป็นกำลังสำคัญอยู่เลย
ถ้าไล่เรียงชาติอาเซียนที่ทยอยออกมาสนับสนุนซาอุดีอาระเบียจากมาเลเซีย, ติมอร์ฯ, ลาว ก็มาอินโดนีเซียกับไทย ก็เป็นอันจบความเคลิ้มๆฝันๆ ลืมตาอยู่กับโลกของความจริงกันต่อไป!
ถึงตรงนี้รัฐบาลเศรษฐาซึ่งถวายสัตย์ปฏิญาณตน มาตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. ถือได้ว่าเริ่มทำงานกันมากว่าเดือนครึ่งแล้ว จำได้ว่าในส่วนของกิจการงานกีฬา การเข้ามาของรัฐบาลนี้ พร้อมด้วยทีมงานด้านกีฬา มีที่ปรึกษาอยู่ในวงการกีฬา ชัดๆก็นายกสมาคมกีฬาเทควันโด ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ถือเป็นคนที่รู้เห็นคลุกคลี รับทราบปัญหาอย่างดีมาโดยตลอด
ที่สำคัญบางช่วงบางเวลาก็เจอเรื่องไม่พึงประสงค์มากับตัวเองเสียด้วย ลืมหมดแล้วหรือ
อีกทั้งภาพลักษณ์ตัวนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ เศรษฐา ทวีสิน นั้น ถือเป็นคนที่ชื่นชอบ เล่นเองสนับสนุน และรู้เรื่องกีฬาดีมากมาตลอด ประธานที่ปรึกษา “บิ๊กโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง ก็มีข้อมูลอยู่ในมือเป็นกระบุง รับรู้ รับทราบปัญหาต่างๆมากมาย
นั่นทำให้ความ (คาด) หวังด้านกีฬาจากคนกีฬามีอยู่ในระดับที่สูงยิ่ง สูงกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาแน่นอนและช่วงแรกก็ดูจะสร้างความเชื่อมั่นได้ว่า ความหวังที่ตั้งกันไว้นั้น จะมีโอกาสที่เป็นจริงสูงมาก แต่ก็ต้องไม่ลืม และจงตระหนักให้ดีว่า
ความหวัง หรือความคาดหวัง เมื่อยิ่งผ่านไปเรื่อยๆแล้วไม่เกิดผลในทางปฏิบัติ มันจะค่อยๆลดลงตามเงื่อนเวลาที่ผ่านไป ซ้ำร้ายมันจะเกิดแรงสวนในทางตรงข้าม
อย่าให้เกิดภาวะ “ท่าดีทีเหลว” ขึ้นมาได้ มันจะเสียของเปล่าๆ
ปัญหาที่เคยสัมผัส รับรู้ ส่วนตัว ส่วนตน ส่วนสมาคม เมื่อสถานภาพตอนนี้ไม่เหมือนเก่า ดีกว่าเก่า ก็ย่อมได้รับการตอบสนองที่ผิดแผกแตกต่างกว่าเดิม
นั่นคือสิ่งที่พออกพอใจกับเรื่องเฉพาะตน การมีโอกาสที่จะได้ทำเพื่อส่วนรวมเป็นเรื่องรองลงไป ค่อยๆเบา ค่อยๆกลายสภาพ จากปัญหาเป็นสิทธิประโยชน์ที่มาพร้อมตำแหน่งกระนั้นหรือ
ถึงวันนี้ปัญหาที่สมาคมกีฬา คนกีฬามากมาย เดือดเนื้อร้อนใจ ยิ่งเป็นช่วงเวลาที่สมาคมกีฬาหลายแห่งต้องดิ้นรน ขวนขวาย กับการให้ได้มาซึ่งการได้สิทธิ์ไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิก การเตรียมการต่างๆเพื่อศักยภาพของนักกีฬาไทยล้วนต้องการการสนับสนุนอย่างเร่งด่วน เป็นจังหวะเวลาที่ต้องทำในตอนนี้
รวมถึงแผนการระยะยาว ที่ยกอ้างกับการฟื้นโครงการ “1 รัฐวิสาหกิจ 1 กีฬา” ขึ้นมาใหม่ นอกจากคำพูดก่อนหน้านี้มีอะไรที่จริงจัง จับต้องได้ เกิดขึ้นแล้วบ้าง ลองตอบตัวเองกันดู
1 เดือนครึ่งที่ผ่านมา กีฬาแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย การประชุมบอร์ดใหม่ก็ยังไม่เกิดขึ้น
คำพูดกับการกระทำ อะไรคือจุดตัดสินที่แท้จริง ต้องตระหนักและสำนึก
อยากได้อำนาจ อยากมีตำแหน่ง เมื่อได้แล้ว เป็นแล้ว จงลงมือทำด้วย...
“เบี้ยหงาย”
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่