ฟ้าคำราม
Relative Energy Deficiency In Sport (RED-S) คืออะไร
การออกกำลัง การซ้อมกีฬา ร่างกาย ต้องใช้พลังงานต่อวันมากขึ้น ออกน้อย กินน้อย ออกเยอะ กินเยอะขึ้น
แต่ถ้าออกเยอะ แต่กินน้อยไปเรื่อยๆ แบตเตอรี่พลังงานในร่างกายพร่องไปเรื่อยๆจนเป็นสีแดง จะเกิดความผิดปกติร่างกายในหลายรูปแบบการทำงาน ทั้งกล้ามเนื้อ การออกแรง ภูมิคุ้มกัน ฮอร์โมน กระดูกบาง
เราเรียกภาวะนี้ว่า RED–S (Relative Energy Deficiency In Sport) พบได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทุกเพศทุกวัย
มักเกิดในคนที่น้ำหนักตัวน้อย เมื่อเทียบกับกีฬาที่ใช้พลังงานเยอะ เช่น วิ่งระยะไกล จักรยาน ไตรกีฬา เป็นต้น
อาการที่พบบาดเจ็บซ้ำไปมาบ่อยๆ เป็นหวัดง่าย ร่างกายล้า ไม่สดชื่น มีปัญหาการนอน นอนหลับยาก อารมณ์เปลี่ยนแปลง หงุดหงิด
เบื่ออาหาร ประจำเดือนไม่มา อันนี้เป็นอาการเตือนสำคัญในผู้หญิง ซึ่งทำให้กระดูกบางลง
และเกิด Stress Fracture กระดูกร้าวจากการเล่นกีฬาได้ง่ายขึ้น
ความยากอยู่ที่การวินิจฉัย เพราะอาการจะค่อยเป็นค่อยไปมากๆ จนนักกีฬาสังเกตตัวเองไม่ถูก นึกว่า Performance Drop ลง
รวมถึงบางครั้งร่างกายพยายามปรับตัวสู้ ทำให้น้ำหนักไม่ลดลง
ดังนั้น นักกีฬาควรดูภาพรวมของการซ้อมกีฬา ระหว่างการกินกับการออกกำลังและหา BMR คร่าวๆเพื่อคำนวณว่าแต่ละวัน เรากินพอกับที่ออกกำลังหรือไม่
เช่น ร่างกายเรามี BMR 1,500 kcal ออกกำลัง 500 kcal กินไป 1,000 Kcal ดังนั้น เราจะขาดทุนพลังงานวันละ 500 kcal 1,000- (1,500+500) ถ้าเรามี Lifestyle แบบนี้เรื่อยๆ ต่อเนื่องจะเกิดภาวะ Red-S ได้
ดังนั้นถ้าไม่ได้ตั้งใจซ้อมกีฬา พร้อมลดน้ำหนัก ให้กินอาหารให้มีพลังงานเพียงพอในการซ้อม ป้องกันการเกิดภาวะ Red–S
*****
เพจ Avarin Running and Triathlon ได้อธิบายถึงการออกกำลังกายที่ต้องทำให้สมดุลกับการรับประทานอาหารเข้าไป
ถ้าใช้พลังงานไปเท่าไหร่และเติมอาหารเข้าไปเพียงพอก็ไม่มีปัญหาอะไร เป็นแนวทางที่ถูกต้อง
แต่ถ้าใช้พลังงานออกกำลังกายประมาณหนึ่ง แต่อาหารที่เข้าสู่ร่างกายน้อยกว่า โดยรวมถือว่าไม่โอเค จะส่งผลเสียต่อร่างกายแบบสะสม
เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ ที่ต้องใส่ใจ
จะมองข้ามไม่ได้...
ฟ้าคำราม
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่