พาวเวอร์บอมบ์
วันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯออกแถลงการณ์ขอเลื่อนการจ่ายเงินสนับสนุนให้กับบรรดาสโมสรไทยลีก
อีกครั้ง ซึ่งนับเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ผมและอีกหลายคนคาใจเรื่องการทำหน้าที่ของผู้บริหารสิทธิประโยชน์มานาน
“บับเบิ้ล” ยิ่งรัก รักษ์สุวรรณ หนึ่งในนักข่าวสายบอลไทยผู้ทรงอิทธิพลที่สุดตอนนี้ ก็เป็นหนึ่งในนั้น จึงโพสต์บทความนี้ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ยิ่งอ่านยิ่งเกิดคำถามมากมาย
ถ้าผู้บริหารสิทธิ หรือแม้กระทั่งผู้บริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ รวมถึงบริษัท ไทยลีกไม่สามารถ แก้ปัญหาหรือแค่ตอบคำถามแบบตรงไปตรงมาได้ ก็เสียสละปล่อยมือเสียเถิด
ให้คนอื่นเขาเข้ามาทำยังจะดูแล้วมีความ หวังกว่า
“เงินสนับสนุนทีมไทยลีก” เป็นปัญหาถูกพูดถึงมาตลอดในการบริหารงานของสมาคมยุคปัจจุบัน
สัปดาห์ก่อนนู้นมีข่าวที่อ่านแล้วไม่สบายใจ สมาคมตอบคำถามสโมสรแบบไม่เคลียร์ เมื่อถูกถามถึงความชัดเจนเรื่องเงินสนับสนุนทีม สมาคมบอกแต่เพียงว่ามีปัญหาขาดสภาพคล่องจากสถานการณ์ “โควิด-19” ที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ หากได้รับเงินจากสปอนเซอร์เมื่อไรจะรีบจ่ายสโมสรทันที แต่จำนวนเงินจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับยอดเงินที่จะได้จากสปอนเซอร์
วันนี้สมาคมออกข่าวชี้แจงอีกครั้ง แต่ไม่มีอะไรใหม่ นอกจากบอกว่าเงินยังไม่มี หมุนไม่ทัน ต้องเอาไปทำทีมชาติ ทำลีก เดือนหน้าอาจจ่ายเพิ่มได้ ถึงตรงนี้เลยยิ่งงง สมาคมไม่มีความชัดเจนหรือตอบอะไรที่สร้างความมั่นใจให้กับสโมสรได้เลยหรือ แล้วสโมสรจะวางแผนต่อไปได้อย่างไร
ที่คาใจคือทำไมสมาคมไม่รู้ว่าเงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์จะได้เท่าไร ทั้งที่ “ผู้ดูแลสิทธิประโยชน์” ต้องการันตีตรงนี้ในหนังสือสัญญา
การประมูลผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ของสมาคมต้องมีการระบุว่าผู้ชนะการประมูลจะสามารถจ่ายเงินการันตีให้ได้ปีละเท่าไร กี่บาท กี่สตางค์
เงินการันตีตัวนี้มันต้องได้แน่ๆตามระยะเวลาในสัญญา ส่วนจะไปขายสปอนเซอร์ได้เพิ่มมากกว่านั้น กี่บาทก็เป็นเรื่องที่จะไปแบ่งกำไรกันเอง
แต่เงินขั้นต่ำต้องมีการการันตีว่าสมาคมต้องได้แน่ๆเท่าไร ไม่งั้นจะไปชนะการประมูลได้มาเป็น “ผู้ดูแลสิทธิประโยชน์” ได้อย่างไร
คำถามคือทุกวันนี้สมาคมได้เงินการันตีครบตามสัญญาหรือเปล่า อันนี้หลายสโมสรคาใจ เพราะเงินมันไม่ออก ออกก็ไม่ตรง
สโมสรเข้าใจดีว่าฤดูกาลนี้ถูกตัดเงินสนับสนุนทีมออก 30% แต่เงินงวดแรกที่ออกมาทั้งที่ควรออกตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาลก็ไม่ได้ครบตามจำนวน
ปกติเงินสนับสนุนสโมสรจะถูกหาร 4 จ่ายเท่าๆกัน 4 งวด แต่งวดแรกที่จ่ายไปได้ไม่นานเงินมันเป็นจำนวนที่คูณ 4 แล้วก็ได้ไม่ถึงยอดที่ต้องได้
ที่น่าประหลาดคือทั้งสมาคมและ “ไทยลีก” ไม่ได้ออกมาเคลียร์แบบชัดๆด้วยว่าเงินจะได้เพิ่มจนครบเมื่อไร นี่เล่นเงียบซะดื้อๆ ตรงนี้จึงเป็นความคาอกคาใจของสโมสรว่าสมาคมดูแลและปกป้องผลประโยชน์ให้กับสโมสรดีพอแล้วหรือยัง
สมาคมควรตระหนักว่าสโมสรเป็น “ฟันเฟือง” สำคัญของวงการฟุตบอลไทย รายได้จากลิขสิทธิ์หรือสิทธิประโยชน์ของ “ไทยลีก” ก็มาจากสโมสรที่สร้างทีมมาเตะกันในลีก หรือทีมชาติไทยที่ไปสร้างความสุขให้คนไทยจนสมาคมถูกโดนด่าน้อยลง ก็เพราะผลผลิตนักเตะที่สโมสรสร้างมาทั้งนั้น
แล้วทำไมสมาคมดูเหมือนจะไม่เห็นอกเห็นใจสโมสรเลย ทั้งที่ควรต้องประคบประหงมดูแลให้ดี
หลายคนจึงสงสัยและตั้งคำถามอีกว่าทำไมสมาคมไม่ไล่บี้ผู้แลดูแลสิทธิประโยชน์ให้หนักๆ เหมือนตอนไล่บี้คนดูแลชุดเก่าที่ฟ้องร้องกันหลายคดี
เพราะอะไร? ทำไม?
ที่ผ่านมาตั้งแต่ทีมงานบริหารชุดนี้เข้ามานำนาวาฟุตบอลไทย ไม่เห็นมีการเปิดเผยตัวเลขสิทธิประโยชน์ต่างๆเลยว่าเท่าไร ยังไงไม่ว่าจะเป็นค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด สิทธิประโยชน์เสื้อผ้า ลูกฟุตบอล และอีกสารพัดอย่างไม่เคยเปิดเผยตัวเลข คนที่แพ้ประมูลยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่ยื่นประมูลแพ้น่ะ แพ้ไปกี่บาท ทั้งที่ตามหลักการแล้วคนประมูลแพ้ต้องได้ข้อมูลตรงนี้
หลายสิ่งหลายอย่างจึงเกิดเป็นเครื่องหมายคำถามที่เอาจริงๆแล้วสมาคมควรต้องมีคำตอบ
ไม่ใช่เอาแต่นิ่ง หรือบอกไม่รู้ ตอบไม่ได้
ที่เคยต่อว่าอะไรทีมงานบริหารสมาคมชุดเก่าไว้ ทำไมเป็นซะเอง!!!
ป.ล. 1.วิธีแก้ปัญหาคืออธิบายให้ชัดเจน ถ้าทำให้เคลียร์ก็คงไม่มีคนถาม
ถ้ามีคนถามก็ตอบ ไม่ต้องบล็อก ไม่ให้ออกสื่อ!
OOOOOO
พาวเวอร์บอมบ์