หน้าแรกแกลเลอรี่

กูรูตัวจริง

เบี้ยหงาย

12 ก.พ. 2566 05:07 น.

พลันที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้รับทราบข้อมูลจากคณะของสภามวยโลก (WBC) ซึ่งนำโดยมัวริซิโอ สุไลมาน ประธานใหญ่ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันก่อน เกี่ยวกับการที่มีองค์กร หนึ่งอ้างสิทธิในการควบคุมกีฬามวยไทย แต่เพียงผู้เดียวทั่วโลกและระบุว่ารัฐบาลไทยให้การสนับสนุน

“ลุงตู่” ก็ได้ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง มวยไทยเป็นกีฬาประจำชาติไทยและเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทย เป็นของคนไทยทุกคน และไม่มีองค์กรใดจะมาอ้างสิทธิเป็นเจ้าของได้ จึงได้สั่งการให้ผู้ว่าการ กกท. ดร.ก้องศักด ยอดมณี ไปแก้ปัญหาอย่างเด็ดขาด โดยเร็วที่สุด

เรื่องนี้นับว่าดูจะสอดรับและไปในทิศทางเดียวกับที่ก่อนหน้านี้อดีตครูของนายกรัฐมนตรี พล.อ.เกษม นภาสวัสดิ์ ในฐานะนายกสมาคมกีฬามวยไทยอาชีพโลก ซึ่งท่านมีประสบการณ์ตรงโดนมา กับตัวเองเมื่อครั้งจะไปจัดกิจกรรมมวยไทยที่กรุงปักกิ่ง ของจีน เมื่อปี 2562 โดยก่อนที่จะมีการแถลงข่าวทางจีนได้แจ้งยกเลิกกับทางสมาคม โดยให้เหตุผลว่าทางสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ “อิฟมา” ได้สั่ง ห้ามจัดกิจกรรมเกี่ยวกับมวยไทยองค์กรอื่น

“คุณครูนายก” ยังมีการระบุด้วยว่า มีอีกหลายประเทศที่มีประเด็นในลักษณะเดียวกันนี้

ปี 2565 อิฟมาและเครือข่ายได้รับงบประมาณจาก กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ไปกว่า 270 ล้านบาท อันเป็นประเด็นที่ค้างคาใจของสมาคมกีฬามากมาย หลายสมาคมได้รับการจัดสรรน้อยนิด หรือบางแห่งบางแผนงานก็ไม่ได้เลย และปีนี้ก็ยังมีการขออีกราวๆ 300 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินงาน

มีการตั้งคำถามมากมาย ประเด็นหนึ่งคือการตรวจสอบว่าใช้อะไร ใช้อย่างไร “รัฐไทย” ในฐานะที่เป็นผู้ให้งบและงบดังกล่าวแม้เป็นเงินกองทุนฯ ซึ่งมาจากภาษีสรรพสามิต ยังไงก็ต้อง ถือว่าเป็น “เงินหลวง” ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน ก็ตาม ย่อมต้องสามารถตรวจสอบได้

บ้างก็ว่าดูได้เฉพาะที่ใช้ทำกิจกรรมในเมืองไทย ส่วนเงินที่ไหลออกและไปใช้ในต่างแดนไม่สามารถตรวจสอบเข้าไปดูรายละเอียดได้ นั่นจึงเป็นประเด็น หากมีขีดเส้นใต้ว่า “หากมี” การทุจริตคอร์รัปชัน มีการกินหัวคิว จะเป็น 20, 25 หรือเกิดอ้างถึงผู้หลัก ผู้ใหญ่แล้วตัด 50 ไปเฉยๆ หรือเกิดมีใครเข้าไปบริหาร จัดการเองในบางโครงการแล้วอ้าง “อิฟมา” ด้วย ตรวจสอบไม่ได้ก็ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่

แล้วอย่างนี้ใครจะตรวจสอบได้ หรือปล่อยผ่านๆไป นั่นจึงต้องรอผู้รู้ ผู้มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบจะให้ความสนใจและให้ความกระจ่างต่อ วงการกีฬาไทย

ที่สำคัญจะไม่เป็นผลดีต่อ “อิฟมา” และ กองทุนฯ เองด้วยซ้ำ หากไม่มีการตรวจสอบ ตรวจสอบ ไม่ได้ หรือไม่มีการแสดงบัญชี รายละเอียดในการ จับจ่ายใช้สอยกับเงินงบประมาณของไทยให้คนไทย ได้รับทราบ จะเป็นมุมมองด้านลบติดตัวตลอดไป บั่นทอนเป้าหมายมวยไทยไปโอลิมปิก แต่กลายเป็นว่าระหว่างทางมีเงินตกหล่นเรี่ยราด สุดท้ายจะไป ไม่ได้ไป ไม่รู้ แต่มีคนได้ประโยชน์มากมาย ย่อมไม่ดีไม่งาม

เมื่อพูดถึง “อิฟมา” ก็ต้องนึกย้อนไปถึง “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีต ผบ.ทบ. และ รมช.กลาโหม ซึ่งถือเป็นนายทหารสุภาพบุรุษแห่งกองทัพไทย ท่านได้เข้ามาเป็นรองประธานอิฟมาในช่วงเวลาสั้นๆ และรวมถึงนายกสมาคมสหพันธ์มวยไทยอาชีพโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรมวยไทยเครือข่ายของอิฟมาในเมืองไทย ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายที่คนดีๆเช่นนี้อยู่ไม่ได้ ต้องลาออกไป ทั้งๆที่ถูกวางตัวให้มาขับเคลื่อน มวยไทยไปโอลิมปิก

โครงข่ายมวยไทยกับอิฟมานั้นดูจะมีความ ซับซ้อนไม่น้อย

แต่จะซับซ้อนอย่างไร โปรดรับทราบ เราก็มี ผู้รู้เรื่องมวยไทยดีอยู่ในกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ไม่ว่าจะเป็น ผจก.กองทุน สุปราณี คุปตาสา ซึ่งเคย เป็นเลขาสมาคมสหพันธ์มวยไทยอาชีพโลกที่จดทะเบียน จัดตั้งที่ จ.ปัตตานี เมื่อเดือน ส.ค.ปี 2561 มาแล้ว รวมถึงรอง ผจก.กองทุน ชนาสิน สิมะดำรงค์ เลขาธิการ สมาคมเดียวกันนี้ ในยุคที่มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการสมาคมเมื่อ 5 พ.ย.2563 สมัยที่ พล.อ.อุดมเดช เป็นนายกนั่นแหละ

ท่านรอง ผจก.กองทุนฯ ก็ถือเป็นผู้มีคุณภาพคับแก้ว นอกจากเชี่ยวชาญด้านการเงินและบัญชี ได้เข้ามาเป็นอนุกรรมการบางคณะของ กกท. นานพอควรแล้ว เท่าที่เห็นผ่านๆตาตั้งแต่ มิ.ย.2562 ก็มีรายงานการประชุมปรากฏออกมา แรกๆยังไม่มี ตำแหน่งในกองทุนฯ แต่นับเป็นคนสนิทของ ผจก.กองทุนมาก่อน คนในการกีฬาแห่งประเทศไทยเห็นเดินหอบข้าวของพะรุงพะรังอยู่ข้างๆจนชินตาคุ้นเคยกันดี จนในที่สุดก็ได้เข้ามาทำงานอย่างเป็นทางการในกองทุนฯ

ไม่เท่านั้นท่านยังมีประสบการณ์ที่น่าทึ่งอีก เป็นถึงกรรมการผู้มีอำนาจใน บริษัท สหพันธ์มวยไทย อาชีพโลก จำกัด ด้วย ซึ่งชื่อก็คล้ายๆกับสมาคมสหพันธ์มวยไทยอาชีพโลกนั่นแหละ สงสัยคงจะชอบ ชื่อนี้ ต่างกันที่จดกับ ก.มหาดไทย ในนามสมาคม แต่จดทะเบียนบริษัททำธุรกิจกับทาง ก.พาณิชย์ กลัว ก็เพียงคนจะสับสนว่าอะไรสมาคม อะไรบริษัทนี่แหละ

และบริษัทดังกล่าวยังไปจดเป็นเจ้าของเครื่องหมาย OSM หรือ ONE STANDARD MUAYTHAI ด้วย ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 3 ธ.ค.2573 ไม่รู้ว่าคนมวย เคยเห็นหรือคุ้นหูกันบ้างรึเปล่า

2 คีย์แมนกองทุนฯ ถือเป็นกูรู น่าจะชี้แนะ หรือหาช่องให้เกิดการตรวจสอบได้ เพื่อความโปร่งใส

มวยไทยไปโอลิมปิก มวยไทยซอฟต์เพาเวอร์ สวยหรู และหอมหวานจริงๆเลย...

“เบี้ยหงาย”