ต่อยอดความสำเร็จ !! 

ต่อยอดความสำเร็จ !! 

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปร่วมงานเชิดชูเกียรติ และแสดงความยินดีให้แก่นักกีฬาเพาะกายและฟิตเนสทีมชาติไทยที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2564 ที่โรงแรมอเล็กซานเดอร์ รามคำแหง

โดยครั้งนี้มีนักกีฬาจำนวน 47 คน และนายกสมาคมกีฬาเพาะกายฯ ศุกรีย์ สุภาวรีกุล ได้รับพระราชทานเครื่องราชฯ ซึ่งนับเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิต

ท่ามกลางแขกเหรื่อ ‘วีไอพี’ ในวงการกีฬาไทยที่มาร่วมยินดีกันอย่างมากมาย อาทิ “บิ๊กเปี๊ยก” พลตำรวจเอก เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา คนที่สาม และประธานคณะอนุกรรมาธิการกีฬาอาชีพและอุตสาหกรรมกีฬา ที่ให้เกียรติมาเป็นประธานของงานนี้

พร้อมด้วย “รองไก่” วิวัฒน์ วิกรานตโนรส ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), วิษณุ ไล่ชะพิษ อดีตรองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), ยุธยา จีนหีต ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ กกท., จันทร พิมพ์สกุล ผู้ทรงคุณวุฒิ สสส., อรรถ นานา นายกสมาคมกีฬาเทนนิสสูงอายุไทย, ดร.ชัย นิมากร ประธานกรรมการอำนวยการ และกรรมการผู้จัดการบริษัทในเครือแกรนด์สปอร์ต และยังมี เฮียกมล และ “เจ๊หงส์” ปวีณา โชคไพบูลย์กิจ เจ้าของอาณาจักร เอฟบีที ผู้เป็นตำนาน เดินทางมาแสดงความยินดีกับท่านประมุขเบ่งกล้ามไทยด้วยตัวเอง

ผมรู้จักกับบิ๊กศุกรีย์ มานานนับสิบปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นแกหลั่งนำ้ตาลูกผู้ชายบนเวที ด้วยความตื้นตันใจสุดๆ ที่สามารถพานักเพาะกายไทยให้ประสบความสำเร็จ ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 53 ที่เมืองบาตัม ประเทศอินโดนีเซีย และชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 11 ที่เกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อปี 2019 จนได้รับพระราชทานเครื่องราชฯในครั้งนี้ 

ซึ่งถือเป็นการฉลองไปพร้อมกันในโอกาสครบรอบ 58 ปี ของสมาคมฯ ในปีนี้อีกด้วย 

นายกฯศุกรีย์เผยว่า สำหรับในปีนี้ นักกีฬาเพาะกายทีมชาติไทย จะมีโปรแกรมแข่งขันชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 6-12 ธ.ค. ที่ จ.ภูเก็ต 

ซึ่งในส่วนของนักกีฬาไทย เราจะส่งนักกึฬาเข้าแข่งขันทั้งหมด 43 คน ให้ครบทั้ง 42 รุ่น ซึ่งในตอนนี้ เราได้นักกีฬาของไทยที่จะเข้าแข่งขัน มี 37 คน เราจะคัดนักกีฬาเพิ่มจากรายการ “ปักษ์ใต้คลาสสิค” ในวันที่ 5-6 พ.ย.นี้ ที่จ.สุราษฎร์ธานี เพิ่มเติม 

โดยเราหวังว่าจะประสบความสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง เช่นเดียวกับในชิงแชมป์โลก ปีที่ผ่านมา ซึ่งนักกีฬาไทยค่อนข้างประสบความสำเร็จ ได้แชมป์โลกในหลายรุ่น

สำหรับความพร้อมของการเป็นเจ้าภาพรายการนี้ ทางสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสโลก ได้มาดูความพร้อมทุกด้าน ตอนนี้ประเทศที่สมัครเข้าแข่งขันเป็นจำนวน 28 ประเทศ คาดว่านักกีฬา น่าจะเกิน 500 คน และน่าจะมีผู้ติดตามมาอีกจำนวนหนึ่งด้วย ซึ่งเราเตรียมโรงแรมไว้รองรับนักกีฬาและ เจ้าหน้าที่ รวม 2 โรงแรม เป็นจำนวนกว่า 400 ห้อง

ศึกเพาะกายชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 13 เป็นอีกครั้งหลังจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เราเคยเป็นเจ้าภาพที่เชียงใหม่ โดยครั้งนี้ เราลงมาจัดที่ภาคใต้ จังหวัดภูเก็ต สถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาสัมผัสมากที่สุด ซึ่งเราเตรียมที่จะต้อนรับนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้ติดตาม อย่างเต็มที่ คาดว่าน่าจะเป็นการทำให้ ‘อุตสาหกรรมการกีฬาและท่องเที่ยว’ ได้มีการบูรณาการและประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน 

ส่งท้าย ‘Sport Insider’ Gossip อาทิตย์นี้ กับการแข่งขันมวยไทยส่งเสริมการท่องเที่ยว “SAT SAMUI SUPER FIGHT ศึกรวมพลคนสมุย” (เอสเอที สมุย ซุปเปอร์ ไฟท์) ที่สนับสนุนโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งเปิดฉากไฟต์แรกกันไปแล้ว เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา 

“บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการกีฬามวย ในฐานะประธานจัดการแข่งขัน กล่าวเปิดเผยว่า ต้องการยกระดับมาตรฐานมวยไทย ให้เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั่วโลกมากยิ่งขึ้น ซึ่งการจัดการแข่งขันที่เมืองท่องเที่ยวยอดนิยม อย่าง เกาะสมุย นั้น ถือว่าตอบโจทย์ทางด้านการท่องเที่ยว สามารถเผยแพร่มวยไทยสู่ผู้ชมในสนามที่กว่า 90% เป็นชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี

ศึกมวยไทย “SAT SAMUI SUPER FIGHT” จะจัดการแข่งขันรวมกันทั้งสิ้น 16 สัปดาห์ ทุกวันเสาร์ เวลา 21.00-23.00 น. ที่สนามมวยเพชรบัญชา หาดเฉวง เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
งานนี้คอหมัดมวยบ้านเรา โดยเฉพาะ“มวยไทย”
ต้องไม่พลาด...ด้วยประการทั้งปวง !!!

- บี บางปะกง - 
joggingboy_be@yahoo.com