ไทยรัฐฉบับพิมพ์
เรื่องนี้เพจ “วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี” นำมาโพสต์เอาไว้ เชื่อว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนหันมาวิ่งและออกกำลังกาย
“ไม่มีใครแก่เกินไปที่จะวิ่ง” (ถอดบทเรียนจากสองนักวิ่งวัยเก๋า Jeannie Rice และ Gene Dykes)
เชื่อว่าเพื่อนๆนักวิ่งที่ติดตามข่าวคงจะเคยได้ยินชื่อสองนักวิ่งวัยเก๋าอย่าง Jeannie Rice และ Gene Dykes ผ่านตากันมาบ้าง ทั้งสองคนคือนักวิ่งสูงวัย ผู้ทำลายสถิติโลกการวิ่งมาราธอนในกลุ่มรุ่นอายุที่เกินกว่า 70 ปี
รางวัลนี้การันตีได้ว่า “ไม่มีใครที่จะแก่เกินไปสำหรับการวิ่งเลยจริงๆ” วันนี้จึงชวนเพื่อนๆมาเรียนรู้เรื่องราวและเคล็ดลับของนักวิ่งสองท่านนี้กันครับ
ตั้งเป้าหมายท้าทายตัวเอง
Gene Dykes จะตั้งเป้าหมายการวิ่งแต่ละปีของตัวเองในช่วงเดือนธันวาคม แล้วประกาศมันออกไปให้ทุกคนได้รับรู้ผ่านการโพสต์ในหน้า Facebook ของเขา
Jeannie Rice ใช้วิธีจดรายการเป้าหมายการวิ่งของเธอ แปะไว้ที่ตู้เย็นและใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์ เธอแนะนำว่านักวิ่งควรตั้งเป้าหมายของตัวเอง และไม่จำเป็นว่าจะต้องชนะหรือทำเวลาได้ดีเสมอไป แต่การตั้งเป้าหมายจะทำให้เรามีจุดยืนที่มุ่งมั่น และรู้ว่าเรากำลังวิ่งไปเพื่อสิ่งใด
เดินหน้าพยายามทำต่อไป
Jeannie Rice พยายามฝึกฝนตัวเองอยู่ตลอด ทั้งการลงแข่งวิ่ง 5K, 10K และระยะ Half Marathon
ส่วน Gene Dykes ก็มีโค้ชส่วนตัว ที่ช่วยควบคุมให้เขาออกกำลังกายอย่างหนักและต่อเนื่อง เขามุ่งมั่นที่จะพัฒนาการวิ่งของเขาให้ดียิ่งขึ้นในทุกๆปี ด้วยการคิดง่ายๆว่า “แค่ทำให้ดีกว่าปีที่ผ่านมา”
โฟกัสสิ่งที่อยู่ตรงหน้าและทำให้ดีที่สุด
Jeannie Rice เผยเคล็ดลับของเธอว่า ในขณะแข่งขันเธอไม่ได้สนใจทุกสิ่งรอบตัวเลย เธอมุ่งมั่นอยู่กับตัวเอง ควบคุมจังหวะการวิ่งของตัวเอง โดยไม่ได้สนใจคู่แข่งคนอื่นๆในสนามเลย และเธอจะบอกกับตัวเองอยู่ตลอดว่า “ฉันรู้ว่าฉันทำมันได้”
ค้นหาสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง
Gene Dykes กล่าวถึงสิ่งที่เขาทำก่อนและหลังการวิ่งว่าเขาสังเกตและได้ค้นพบว่า การยืดเหยียดและการฝึกยกน้ำหนักเหมือนที่ใครๆทำกัน มันกลับยิ่งทำให้เขาบาดเจ็บมากขึ้น เขาจึงแนะนำว่าให้ลองค้นหาและสังเกตดูว่าอะไรที่ทำแล้วดีกับร่างกายของคุณจริงๆ เพราะบางคำแนะนำดีๆก็อาจจะไม่ได้เหมาะกับร่างกายของเราก็ได้
อย่าสร้างข้อจำกัด
มีหลายคนที่คิดว่าการเริ่มต้นวิ่งในตอนที่อายุมากขึ้น เป็นเรื่องที่ไม่สนุกและทำได้ยาก แต่ Dykes กลับบอกว่าพวกคุณคิดผิด! เขาบอกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ที่คุณจะมีเวลาว่างเพียงพอที่จะทุ่มเทให้กับการวิ่งได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องแบ่งเวลาจากการทำงานหรือเลี้ยงลูก ซึ่งเขาสนับสนุนให้ทุกคนวิ่งเมื่อมีเวลาฝึกมันอย่างจริงจังจะดีที่สุด
สรุปเลยนะครับ... สิ่งที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จในการวิ่ง ไม่ใช่เพราะพรสวรรค์
แต่มันคือการวางแผน แล้วพยายามฝึกซ้อมทุ่มเทอย่างหนัก เพื่อเป้าหมายที่ตัวเองตั้งใจไว้!
ยุบสภา