เบี้ยหงาย
จากเกมแดงเดือดในแผ่นดินไทย ซึ่งมองในมุมของการทดสอบ โดยถือเป็นการจัดอีเวนต์ หรือจะเรียกว่าเกมกีฬาก็ได้ แต่ก็ถือเป็นมหกรรมใหญ่ที่มีการรวมตัวรวมกลุ่มก้อนกันเป็นจำนวนมาก เป็นเกมแรกที่เกิดขึ้น หลังไทยเราก้าวข้าม “โควิด-19” อย่างเป็นทางการไปอีกขั้น โดยลดความหวาดกลัว หวาดหวั่น มาเป็นการระแวดระวัง ควบคู่กับการคืนกลับมาใช้ชีวิตที่เกือบจะเป็นปกติมากขึ้น
แม้ว่าหลังวันนั้น จริงๆแล้วก็มีการพบผู้ติดเชื้อที่ได้ไปร่วมเกมอยู่ในสนามราชมังคลากีฬาสถานอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร
ก็ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี
และจากนี้ก็กำลังจะมีอีก 2 เกมกีฬาที่จะเกิดขึ้น และเป็นการไปจัดในภูมิภาคนอกเมืองหลวง ทั้งในภาคอีสานและภาคใต้ ซึ่งทั้งสองเกมก็ได้รับผลกระทบจาก “โควิด-19” ในอดีต จนต้องเลื่อนมาเช่นกัน
หนึ่งนั้นคือ กีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ครั้งที่ 20 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เดิมจะจัดช่วงเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว แต่เจอโควิดอาละวาดจนต้องขยับมาจัดปีนี้ ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม ถึง 6 สิงหาคม ซึ่งจะมีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จากชาติต่างๆในอาเซียน จำนวน 10 ประเทศ (ขาดบรูไน) เข้าร่วม มีการแข่งขันกีฬาทั้งสิ้น 23 ชนิด แน่นอนจะมีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เป็นพันคน ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันหลายวัน
ส่วนอีกหนึ่ง กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 37 (พัทลุงเกมส์) ช่วง 29 กรกฎาคม ถึง 10 สิงหาคม กับกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 4 (เสกักเกมส์) 21-27 สิงหาคม ที่ จ.พัทลุง โดยกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งนี้จัดแข่งทั้งสิ้น 45 ชนิดกีฬา รวมทั้งกีฬาสาธิตอีก 8 ชนิด ซึ่งจะกระจายการจัดการแข่งขันทั้งในจังหวัดพัทลุงและจังหวัดอื่นที่มีสนามรองรับ
จำนวนนักกีฬาและเจ้าหน้าที่นั้นมากถึง 15,183 คน
แน่นอน เรื่องของการบริหารจัดการด้านเทคนิคกีฬาต่างๆก็ว่ากันไปตามธรรมเนียม และจะต้องมีมาตรการเพิ่มเติมจากภาวะปกติ และแม้ตอนนี้จะเป็นช่วงผ่อนคลายใกล้ปกติ แต่ก็ยังต้องระแวดระวังหนักกับ “โควิด-19” ซึ่งยังถือเป็นความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง!
ไม่เท่านั้นยังเข้าสมัยนิยม กับเรื่อง “กัญชาเสรี” ตามสไตล์ไทยๆ ที่กระแสต่อต้านดังระงมมากขึ้นทุกวัน ส่วนเสี้ยวต่างๆพยายามตั้งการ์ด หาเกราะกำบัง ในยามที่กฎระเบียบไม่ชัด และยังไม่มีอย่างเป็นทางการออกมา
จึงเป็นเรื่องที่ต้องเพิ่มงาน เพิ่มความระมัดระวัง และจับจ้องเข้าไปอีก
อย่างไรก็ตาม นับเป็นเรื่องดี เป็นโอกาสที่ทั้งฝ่ายจัดการแข่งขัน หรือฝ่ายผู้มาแข่งขัน จะได้กลับมาทำหน้าที่ กลับคืนสู่เกมที่ห่างหายไปนาน ชีพจรกีฬากลับมาเต้นตามครรลองกันอีกแล้ว
ยังไงก็อย่าประมาท ขอนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทั้งหลาย จงป้องกันตัวเองกันให้หนัก ทำตามข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หวังว่าการแข่งขันจะเป็นไปอย่างราบรื่น
ถือเป็นทั้งหน้าที่ ความรับผิดชอบ ขณะเดียวกันก็เป็นอีกบททดสอบ ด้วยจะเป็นตัวชี้วัดที่จะนำไปสู่เกมกีฬาอื่นๆ เพื่อกลับคืนสู่สภาวะที่เป็นปกติได้อย่างมั่นใจต่อไป...
“เบี้ยหงาย”