หน้าแรกแกลเลอรี่

ให้คะแนนกัน

เบี้ยหงาย

8 ก.ค. 2565 04:35 น.

ตั้งแต่การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 35 แบบเต็มคณะ อันมีท่านผู้นำของไทย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม และเป็นประธานอาเซียนขณะนั้น ที่อิมแพ็ค อารีนาเมืองทองธานี เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ปี 2562 ซึ่งบรรดาผู้นำผู้มีวิสัยทัศน์ทั้งหลายของชาติสมาชิกต่างเห็นพ้องต้องกัน ในการที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกร่วมกัน ซึ่งเห็นควรให้มีการเตรียมความพร้อมไว้ ซึ่งเล็งไว้สำหรับฟุตบอลโลกในปี 2034

และหลังการประชุมวันนั้น ผู้นำชาติสมาชิก ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามเอ็มโอยู ระหว่างประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) จานนี อินฟานติโน กับดะโต๊ะ ปาดูกา ลิม จ๊อก ฮอย เลขาธิการอาเซียน เพื่อส่งเสริมฟุตบอลในอาเซียน และสนับสนุนความปรารถนาร่วมกันของอาเซียนที่จะเสนอตัวร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2034 โดยมีผู้นำอาเซียนเป็นสักขีพยาน ซึ่งประธานฟีฟ่าได้มอบเสื้อบอลสีน้ำเงินสกรีนชื่อผู้นำแต่ละประเทศพร้อมหมายเลข โดย พล.อ.ประยุทธ์ก็ได้เบอร์ 9 ด้วย บรรยากาศชื่นมื่นเหลือหลาย

ต่อมาในการแถลงการณ์ของประธานการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 ออกมาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 พ.ย.2562 ในข้อที่ 40 ก็ระบุว่า “เรายินดีต่อการลงนามเอ็มโอยูระหว่างอาเซียนและสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (ฟีฟ่า) ซึ่งจะสนับสนุนความร่วมมือด้านฟุตบอล และเกื้อกูลความพยายามของอาเซียนในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ค.ศ. 2034”

หลังจากนั้นดูเหมือนเรื่องนี้จะค่อยๆเงียบหายไป จนช่วงเดือน ก.พ.ปี 2564 ก็มีการพูดถึงกันอีกครั้ง เมื่อทางอธิบดีกรมพลศึกษา ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ซึ่งชาติอาเซียนเห็นควรให้ฝ่ายไทยเป็นผู้นำในการศึกษาข้อมูล

เรื่องความสนใจเสนอตัวเจ้าภาพฟุตบอลโลกนี้กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง เมื่อนายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชา และประธานอาเซียนปี 2565 ประกาศขณะเป็นประธานในพิธีต้อนรับถ้วยฟุตบอลโลก “ฟีฟ่า เวิลด์คัพ โทรฟี” ที่มาถึงกัมพูชา และตั้งโชว์อยู่ที่อาคารวิมานสันติภาพในกรุงพนมเปญ เมื่อ 15 มิ.ย.2565 ระบุต้องการที่จะเห็นอาเซียนมีวิสัยทัศน์และแผนงานที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลกในปี 2030 หรือ 2034

ขณะที่ในไทยนั้น เมื่อ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ก็มีการประชุมที่กรมพลศึกษา อันมีอธิบดี ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์, เคียฟ ซาเมธ ประธานสหพันธ์ฟุตบอล อาเซียน (เอเอฟเอฟ), วินส์ตัน ลี เลขาธิการเอเอฟเอฟ และพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ที่นำการเสนอตัวฟุตบอลโลก 2026 ที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก โดยประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากสหรัฐอเมริกา เพื่อรวบรวมข้อมูลแง่มุมต่างๆ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการจัดตั้งคณะทำงานด้านเทคนิคซึ่งมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐของประเทศต่างๆ อาเซียนมาทำงานร่วมกัน

และล่าสุดเมื่อ 7 ก.ค. ทางโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ก็มีการแถลงความคืบหน้าการพิจารณางบประมาณของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยเฉพาะงบของกรมพลศึกษา เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 2034 ของประเทศในอาเซียน ซึ่งต้องเตรียมเรื่องสนาม รวมถึงสนามบินที่ต้องใหญ่เพียงพอ

โดยมีการตั้งคำถาม อยากทราบว่าไทยจะเดินหน้าร่วมกับอาเซียนเพื่อเป็นเจ้าภาพหรือไม่

ซึ่งก็ยังไม่รู้ และไม่ได้มีการเปิดเผยออกมาว่าจะตั้งงบประมาณไว้เท่าไหร่ อย่างไร

ลองประเมินกันดู เจ้าภาพฟุตบอลโลกกับอาเซียน และประเทศไทย ทั้งศักยภาพ ไม่ว่าด้านเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงการเมือง และผู้รับผิดชอบ ตลอดจนมาตรฐานเชิงลูกหนัง กับการเตรียมตัว เตรียมพร้อม จริงจัง น่าเชื่อถือ มีความหวังกันจริงหรือ

จะให้กี่เปอร์เซ็นต์ดี...

“เบี้ยหงาย”