เบี้ยหงาย
แมตช์แรกกับการจั่วหัวเปิดสนามของนักเตะทีมชาติไทยในชุดยู-23 กับสมรภูมิซีเกมส์ ครั้งที่ 31 เมื่อผลออกมาเช่นนี้ ก็คงไม่มีอะไรเป็นอื่น “ผิดหวัง” เท่านั้น
ความผิดหวังนี้คงไม่ได้หมายถึงการต่อว่าต่อขาน การแสดงความไม่เชื่อถือ ไม่เชื่อมั่นต่อความพยายามทุ่มเทต่างๆนานา ของนักเตะเรา แต่มันเป็นผลทางอารมณ์ความรู้สึกที่ไม่เป็นไปดังที่หวังเท่านั้น
ซึ่งก็เชื่อและมั่นใจเต็มเปี่ยมว่า ผลของความพ่ายแพ้ในนัดแรกจะยิ่งทำให้ทีมงาน นักเตะ และรวมถึงกองเชียร์คือคนไทยทั้งประเทศจะยิ่งให้กำลังใจที่ส่งพลังไปให้พวกเรา เด็กเรา ที่เวียดนามนั้นมากกว่า มากยิ่งขึ้น ยังเหลืออีก 3 นัดในรอบแรก โอกาสเข้าสู่รอบรองชนะเลิศยังเปิดกว้างมากมาย
สู้กันต่อไป!!!
แต่สิ่งหนึ่งที่สะท้อนออกมาชัดเจน และดูจะเป็นประเด็นที่ชวนขบคิด นั่นคือมุมมองและการแสดงออกของเพื่อนอาเซียนต่อทีมไทยของเรา ใครที่ดูการถ่ายทอดสดคงจะได้เห็นแฟนบอลเข้ามาเชียร์กันเต็มสนาม เป็นภาพที่น่าประทับใจ และดีใจกับการจัดของเวียดนามที่ได้รับการสนับสนุนด้วยดี ทั้งๆที่นัดนั้นเจ้าภาพไม่ได้เล่นยังซื้อบัตรเข้าชมกันแน่นขนัด
ส่วนที่เป็นประเด็นคือ ส่วนใหญ่และเป็นจำนวนมากจริงๆเชียร์มาเลเซีย เอาใจช่วยมาเลเซีย ภาพในสนามก็สะท้อนหลังเกมโลกโซเชียลก็กระหน่ำเทไปทางมาเลเซีย แสดงความยินดีในชัยชนะเหนือไทย แฟนบอลมาเลเซียเองก็แสดงความขอบคุณแฟนบอลเวียดนามที่เข้ามาเชียร์ทีมตน
ไม่ต้องไปดูถึงส่วนที่เหน็บแนม เย้ยหยัน หรือ แดกดันอะไรกับเรา กับบางส่วนที่แทบจะเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
คำถามตัวโตๆ และเป็นคำถามที่มีมาก่อน หน้านี้เรื่อยๆ และดูจะมากขึ้นก็คือ ทำไมไทยเราถึงไม่ได้รับมิตรภาพเหมือนเช่นอดีตที่เราเคยภาคภูมิใจ และแถมอาจจะออกผยองนิดๆเมื่อครั้งกาลก่อน ด้วยคำนิยามตัวเองถึงการเป็น “พี่ใหญ่” ในภูมิภาคนี้
ซึ่งไม่เพียงแต่ในกีฬาฟุตบอลเท่านั้น ภาพรวมของกีฬาไทย โดยเฉพาะซีเกมส์นั้น ทิศทางมาเช่นนี้ เพียงแต่กีฬาฟุตบอลนั้นดูจะสัมผัส รับรู้ได้ไวกว่ากีฬาอื่นๆ
จากพี่ใหญ่ในอดีตกาล ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของโอลิมปิกไทยเสมอมา ในยุคหลัง 10 ปีก่อนหน้านี้ พัฒนาและพยายามมาเป็นเพื่อนที่เท่าเทียม จนถึงตอนนี้ไม่แน่ใจว่าจะลดระดับลงไปเป็นเพื่อนที่ต้องระแวดระวัง ไม่สนิทใจกันหรือไม่
คงต้องหันมามองดูตัวเองว่า เราทำอะไรให้ครอบครัวกีฬาอาเซียนถึงมีมุมมองต่อกันที่เป็นลบมากขึ้น เอาแค่กีฬาซีเกมส์ เวลาไปแข่งชาติอื่น มุมมองเราต่อเขาอันแรกคือเตรียมตัวถูกโกง ถูกเอาเปรียบ และเรามักจะบอกกล่าวว่าถ้าเราจัดจะไม่ทำเช่นนั้น
แล้วเมื่อเราจัดเราก็ทำอย่างคนอื่นหรือไม่ หรือหนักกว่า เราเป็นอย่างนี้หรือไม่ เราจริงใจกับเพื่อนเราจริงๆรึเปล่า
บางคนอาจจะมองว่าด้วยเราเก่ง คนอื่นถึงอยากล้ม เราเหนือคนอื่นถึงอยากจะข้ามให้ได้ ซึ่งมุมมองเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดและสะท้อนออกมาในเชิงปฏิบัติ ซึ่งมันจะก่อให้เกิดความรู้สึกต่อกันโดยไม่รู้ตัวในที่สุด
หรือกีฬาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาพใหญ่ในประเทศ เป็นความรู้สึก มุมมอง ที่อาเซียนมีต่อ ไทยแลนด์ ที่ส่งต่อรับอิทธิพลลงมาหรือไม่ อันนี้ก็น่าสนใจ และคงต้องวิเคราะห์กันให้หนัก...
จากนี้ไป “เรียงหน้าชน” จะต้องขอหลบฉากชั่วคราว เพื่อเปิดพื้นที่ให้กับ “เกาะติดซีเกมส์” ตั้งแต่ฉบับวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กลับมาพบกันใหม่หลังซีเกมส์ครับ!
“เบี้ยหงาย”