หน้าแรกแกลเลอรี่

กระหึ่ม "รัชชานนท์" ผงาดคว้าแชมป์ "เอเชียน มิกซ์ คัพ" ที่ชลบุรี

ไทยรัฐออนไลน์

10 เม.ย. 2565 17:52 น.

"รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์" นักกอล์ฟสมัครเล่นทีมชาติไทย วัย 15 ปี สร้างปรากฏการณ์คว้าแชมป์ "ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ ซีรีส์" รายการ "ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ คัพ" ได้สำเร็จ

การแข่งขัน "ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ ซีรีส์" จัดโดย ทรัสต์ กอล์ฟ ร่วมกับ เลดีส์ ยูโรเปียนทัวร์ (แอลอีที) และเอเชียนทัวร์ เป็นการแข่งขันกอล์ฟรูปแบบผสมชาย-หญิงครั้งแรกในประเทศไทย 2 รายการติดต่อกัน คือ "ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ คัพ แข่งขันวันที่ 7-10 เมษายน 2565 และ “ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ สเตเบิลฟอร์ด ชาลเลนจ์” วันที่ 13-16 เมษายน 2565 ที่ สยามคันทรีคลับ วอเตอร์ไซด์ พัทยา จ.ชลบุรี ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 49 ล้านบาท)

ทั้งนี้ศึก "ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ คัพ" ชิงเงินรางวัล 750,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 24.5 ล้านบาท) แข่งขันกันเป็นวันที่ 4 ตัดสินแชมป์ โดย "โปรเพชร" พชร คงวัดใหม่ โปรหนุ่มวัย 22 ปี จาก จ.สงขลา ผู้นำร่วมกับ บี โอ คิม จากเกาหลีใต้ ออกรอบในก๊วนสุดท้าย พร้อมด้วย "โปรว่าน" จารวี บุญจันทร์ โปรสาวที่มีสถิติดีที่สุดในการเล่น 3 วัน รั้งอันดับ 3 ร่วม ก็ได้เล่นในกลุ่มลุ้นแชมป์ด้วย ในขณะที่ "ทีเค" รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ นักกอล์ฟสมัครเล่นทีมชาติไทย วัย 15 ปี ผู้นำใน 2 วันแรก ออกรอบพร้อมกับ พอล พีเตอร์สัน โปรอเมริกัน และ "โปรเอพริล" ชนกนันท์ อังกุรเศรณี

การแข่งขันขับเคี่ยวกันอย่างสนุกสูสี มีการผลัดกันขึ้นเป็นผู้นำและผู้ตามตลอดเวลา โดยมีโปรต่างชาติ อย่าง คิม จูห์ ยัง โปรเกาหลีใต้ และ 2 โปรอเมริกันอย่าง จอห์น แคทลิน กับ พอล พีเตอร์สัน เกาะในกลุ่มผู้นำอย่างเหนียวแน่น แต่การเล่นใน 9 หลุมหลัง "ทีเค" รัชชานนท์ เล่นได้อย่างมั่นใจก่อนทำไป 7 อันเดอร์พาร์ 65 สกอร์รวม 4 วัน 20 อันเดอร์พาร์ (63-70-70-65) 268 คว้าแชมป์ไปครอง โดยอันดับ 2 ได้แก่ คิม จูห์ ยัง (เกาหลีใต้) 72-65-69-64 รวม 18 อันเดอร์พาร์ 270 ด้าน อันดับ 3 ร่วม พอล พีเตอร์สัน (สหรัฐอเมริกา) 69-66-68-68 รวม 17 อันเดอร์พาร์ 271 และ บี โอ คิม (เกาหลีใต้) 67-67-68-69 รวม 17 อันเดอร์พาร์ 271, อันดับ 5 จอห์น แคทลิน (สหรัฐอเมริกา) 68-71-66-67 รวม 16 อันเดอร์พาร์ 272

ผลงานของนักกอล์ฟไทยที่ทำผลงานได้ดี อันดับ 6 ร่วมมี 2 คนคือ "โปรเพชร" พชร คงวัดใหม่ (65-69-68-71) มี 15 อันเดอร์พาร์ 273 และ “โปรเอพริล” ชนกนันท์ อังกุรเศรณี (67-70-67-69) มี 15 อันเดอร์พาร์ 273 อันดับ 10 ร่วม "โปรพราว" ชเนตตี วรรณแสน (66-73-67-69) มี 13 อันเดอร์พาร์ 275, "โปรเปียโน" อาภิชญา ยุบล (67-68-70-70) มี 13 อันเดอร์พาร์ 275 และ "โปรว่าน" จารวี บุญจันทร์ (71-66-66-72) มี 13 อันเดอร์พาร์ 275

พิธีมอบรางวัล ดร.ปริญ สิงหนาท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทรัสต์ กอล์ฟ เป็นประธาน ร่วมด้วย มิสอเล็กซานดร้า อาร์มาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ เลดีส์ ยูโรเปียนทัวร์ (แอลอีที), มิสเตอร์ โช มินน์ ตันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอเชียนทัวร์ ร่วมมอบถ้วยรางวัลและแสดงความยินดีแก่ "ทีเค" รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ ที่คว้า 2 รางวัล โดยอีกรางวัลสำคัญคือ นักกอล์ฟสมัครเล่นยอดเยี่ยมที่ทำคะแนนดีที่สุด (Low Amateur) ด้วย

ล่าสุด "ทีเค" รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ ในวัย 15 ปี ที่ยังไม่เทิร์นโปรแต่สามารถเอาชนะโปรชั้นนำจากเอเชียนทัวร์ในการแข่งขันระดับอาชีพ กล่าวว่า "รู้สึกสนุกและได้เรียนรู้มากมาย จากการแข่งขันรายการนี้ โดยวันแรกตนเองเล่นได้ดี ทำ 9 อันเดอร์พาร์ แต่ 2 วันต่อมาก็เล่นดรอปลงไป ทำให้ต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาตัวเอง รวมทั้งต้องควบคุมสมาธิให้อยู่กับเกมให้ได้ หากพลาดแล้วก็ต้องลืมให้เร็วที่สุด ซึ่งการคว้าแชมป์ครั้งนี้ได้ก็ตื่นเต้นมาก และทำให้มีความมั่นใจในการแข่งขัน “ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ สเตเบิลฟอร์ด ชาลเลนจ์” สัปดาห์ต่อไป ซึ่งรูปแบบ และกฎกติกาการเล่นจะแตกต่างกัน แต่คิดว่าตนเองจะต้องเล่นบุกมากขึ้นกว่าเดิมหากอยากจะคว้าแชมป์อีกครั้ง"

ขณะที่ ดร.ปริญ สิงหนาท กล่าวว่า "รู้สึกว่าการจัดการแข่งขันรายการนี้คุ้มค่าเป็นอย่างมาก ผลสำเร็จนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนรู้สึกช็อก ในขณะที่เด็กไทยก็แสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถทำได้ในเวทีกอล์ฟระดับโลก ซึ่งในการแข่งขัน “ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ สเตเบิลฟอร์ด ชาลเลนจ์” สัปดาห์หน้าสิ่งที่อยากจะเห็นคือนักกอล์ฟหญิงก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์บ้าง แต่ถ้าหาก “ทีเค” รัชชานนท์ จะคว้าแชมป์ 2 สัปดาห์ซ้อน หรือนักกอล์ฟคนอื่นๆ จะได้แชมป์บ้างก็ไม่เป็นไร แต่คิดว่าการแข่งขันจะสนุกแน่นอน"

สำหรับการแข่งขัน "ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ ซีรีส์" จะมีการแข่งขันสนามที่ 2 รายการ “ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ สเตเบิลฟอร์ด ชาลเลนจ์” วันที่ 13-16 เมษายน 2565 นี้ ที่ สยามคันทรีคลับ วอเตอร์ไซด์ พัทยา จ.ชลบุรี ชิงเงินรางวัล 750,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 24.5 ล้านบาท) วันพุธที่ 13 เมษายน-วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน เวลา 14.00-17.00 น., วันศุกร์ที่ 15 เมษายน เวลา 13.00-16.00 น., วันเสาร์ที่ 16 เมษายน เวลา 12.00-16.00 น., วันศุกร์ที่ 15 เมษายน-วันเสาร์ที่ 16 เมษายน เวลา 13.00-16.00 น.