บี บางปะกง
ภารภิจของขุนพลช้างศึกพลังหนุ่ม ทีมชาติไทย ยู-19 ในศึกฟุตบอล 23 ปีชิงแชมป์อาเซียน ที่กัมพูชา จบลงอย่างสมบูรณ์แบบแล้วล่ะครับ
แม้เราจะถูก เวียดนาม ย้ำแค้นพ่ายไปในนัดชิงชนะเลิศด้วยสกอร์เดิม 0-1 ได้แค่ตำแหน่งรองแชมป์กลับบ้านมา
แต่นั่นไม่ใช่สาระสำคัญ ที่ต้องเก็บมาขบคิดมากมายอะไร เพราะทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าทีมชาติไทยชุดนี้ลงทุนแบกอายุที่ต่ำกว่า 19 ปี ไปเล่นกับนักเตะรุ่นซีเนียร์ของชาติอื่นที่อายุ 22-23 ปีด้วยกันทั้งนั้น
โดยเฉพาะในเกมชิงชนะเลิศที่เพิ่งผ่านมากับทีม “ดาวทอง” เราต้องเผชิญปัญหาผู้เล่นติดโควิดไปพร้อมกันถึง 8 คน
ทำให้แข้งตัวหลัก อย่าง ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์นี้ชวดลงช่วยทีมอย่างน่าเสียดายที่สุด
ซึ่งขุมกำลังที่เหลือ ที่ ‘ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย’ กุนซือหนุ่มชาวสเปน ส่งลงสนามไปลุย มีอายุเฉลี่ยเพียง 17.9 ปีเท่านั้น ขณะที่แข้งเหงียนใช้ผู้เล่นอายุเฉลี่ยประมาณ 21.3 ปี
แต่ค่าเฉลี่ยที่มีรอยห่างกันถึง 3 ปี ก็ไม่ได้สร้างปัญหาต่อหัวจิต หัวใจของนักเตะไทยแลนด์จูเนียร์ชุดนี้แต่อย่างใด?
เพราะไม่ว่าตัวจริง ตัวสำรอง ดูเหมือนทุกคนจะมีประสิทธิภาพที่สามารถทดแทนกันได้หมด
เรียกว่าทุกเกมที่ลงสนามในศึกนี้ทั้ง 4 แมตช์ กับผลงาน ชนะ 2 แพ้ 2 ยิงได้ เบ็ดเสร็จ 5 ลูก และเสียประตูให้คู่แข่งไป 3 ลูกนั้น
ถือว่า “สอบผ่าน” สบายๆ ในสายตาของแฟนบอลที่เฝ้าชมการถ่ายทอดสดอยู่ทางบ้าน
โดยมีผู้เล่นดาวรุ่งหลายคนก้าวขึ้นมาแจ้งเกิดบนเวทีระดับชาติได้อย่างน่าชื่นชม!
และเชื่อว่าพวกเขาเหล่านี้จะเป็นคลื่นลูกใหม่ที่ก้าวขึ้นมาทดแทนแข้งช้างศึกรุ่นพี่ในอนาคตได้อย่างไม่ยากเย็นเลย ถ้ามีการพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่องนับจากนี้เป็นต้นไป
ซึ่งทั้งหมดคงต้องยกเครดิตให้ โค้ชซัลบาดอร์ ที่ฟูมฟักดูแลทีมชุดนี้มาตั้งแต่อายุ 14 ปี จนถึงปัจจุบัน
นี่คือผลผลิตชั้นเยี่ยมที่เริ่มออกดอกออกผลให้เราได้เห็นกันแล้ว..ว่าพวกเขามีดีอย่างไร?
จุดประกายความหวังให้ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ที่ปีนี้กำลังจะมีโปรแกรมสำคัญรออยู่ ในศึกฟุตบอล ยู-20 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก (AFC U20 Asian Cup 2023 Qulifiers)
ที่จะฟาดเกือกกัน ในช่วงระหว่างวันที่ 10-18 กันยายน 2565 นี้
ให้มีโอกาสลุ้นหยิบตั๋วไปลุยฟุตบอล 20 ปีชิงแชมป์โลก รอบสุดท้าย ให้ได้ ซึ่งไทยเราไม่เคยทำสำเร็จมาก่อน
แต่ในเมื่อไอ้หนูนักเตะไทยชุดนี้ ฉายแววให้เห็นกันแล้ว ว่าพวกเขามีสิทธิ์ทำฝันนั้นให้บรรลุเป้าหมายได้จริงๆ
หากมีการทำการบ้านเตรียมทีมให้มีความพร้อมมากเพียงพอ
เวลา 7 เดือนหลังจากนี้ เป็นโจทย์ที่สมาคมลูกหนังไทยต้องวางแผนแล้วล่ะครับ
ว่าจะต่อยอดให้โค้ชกระทิงดุ กับลูกทีม 19 ปีของเขา เดินหน้าสานต่อภารกิจกันอย่างเต็มที่ แบบไหน อย่างไร? ต่อไป
โดยเฉพาะ กุนซือซัลบาดอร์ ถ้าจะให้ดี ผมว่าต้องหาผู้ใหญ่ใจดีเข้ามาเป็น “ผู้จัดการทีม” ช่วยซัพพอร์ตการทำงานของเค้า ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
ถ้าได้สเปกแบบทีมชาติไทยชุดใหญ่ และช้างศึก ยู-23 ที่มี “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ คอยเป็นเจ้าภาพดูแลทีมตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ยิ่งวิเศษเข้าไปใหญ่
อย่างน้อยโปรเจกต์ต่อยอด “บอลไทยไปบอลโลก (20 ปี)” จะได้ดูดี มีชีวิต ชีวา ขึ้นมาหน่อย
ไม่ใช่จบศึกแล้วเหี่ยวแห้ง เงื่องหงอย บ้านใคร บ้านมัน
เหมือนเช่นศึกนี้ หรือศึกอื่นๆ ที่เคยผ่านมา
ซึ่งอัดฉีดอะไร..ไม่มีสักบาท
มันดูแล้วเหงาพิลึก!!!
- บี บางปะกง -