บี บางปะกง
แมตช์นี้ที่รอคอย!! ในศึกลูกหนัง ยู-23 ชิงแชมป์อาเซียน ที่กัมพูชา กำลังจะมาถึงแล้วล่ะครับ
ช้างศึกพลังหนุ่ม 19 ปี ของกุนซือรูปหล่อ ‘ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย’ จะแบกอายุ ลงวัดแข้งศึกแห่งศักดิ์ศรีของภูมิภาคนี้ กับ แข้งสกุลเหงียน ทีมชาติเวียดนาม ยู-23 ในคำ่วันอังคารที่ 22 ก.พ.นี้
นักเตะยังเติร์กของไทย โชว์ฟอร์มได้อย่างเข้าตากรรมการ ในเกมประเดิมสนามที่พวกเขายิงแซงเอาชนะสิงคโปร์ไปได้ 3-1
“เจ้าต้น” ธีรศักดิ์ เผยพิมาย กองหน้าดารุ่งจากสิงห์เจ้าท่า แจ้งเกิดเพียงชั่วข้ามคืน หลังยิงเบิ้ลช่วยให้ทีมดับลอดช่องในแมตช์แรกลงอย่างสวยงาม
หลายคนเชื่อว่าถ้าเด็กไทยรักษามาตรฐานเช่นเกมที่แล้วไว้ได้ เราก็น่าจะสู้กับเวียดนามได้สนุกแน่
แม้พวกเขาจะเพิ่งข่มขวัญชาติอื่นด้วยการระเบิดประตู สิงคโปร์ กระจุยกระจาย ถึง 7-0 มาก็ตาม
นั่นเป็นเรื่อง “ความเชื่อมั่น” ของแฟนบอลที่มีต่อตัวกุนซือและนักเตะชุดนี้
ที่สามารถทำผลงานได้ดีเยี่ยม กับการเปิดตัวต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการในครั้งแรก
มันก็เหมือน ‘โค้ชมาโน โพลกิง’ กับทีมชาติไทยชุดใหญ่..นั่นแหละครับ
ตอนนี้คอลูกหนังทั้งหลาย ต่างเออออห่อหมกกับเขาไปหมดทุกเรื่อง
โดยเฉพาะเป้าใหญ่ที่เจ้าตัวออกมาวาดหวังสูงลิ่ว ว่าอยากพา ‘บอลไทยไปบอลโลก’ ให้ได้ภายในปี 2026
เพราะเราน่าจะมีโอกาสสูงขึ้น จากการเพิ่มทีมในทวีปเอเชียเป็น 8 ชาติ ในรอบสุดท้าย เวิลด์คัพ อีก 4 ปีข้างหน้า
นั่นเป็นผลพวงจาก “ความเชื่อมั่น-ศรัทธา” ที่แฟนๆ มีให้กุนซือฝรั่งหัวใจไทยผู้นี้อย่างเต็มร้อย
หลังเจ้าตัวสร้างผลงานพาแข้งช้างศึกกลับไปเถลิงบัลลังก์แชมป์เจ้าอาเซียน ในศึก “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2020” เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาได้สำเร็จสมใจ!!
ทีนี้ลองมาเทียบกับกุนซือทีมชาติไทย 23 ปี อย่าง “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ที่พาทีมช้างศึกตีตั๋วเข้าไปลุยรอบสุดท้าย ศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่อุซเบกิสถาน ในช่วงกลางปีนี้ดูสักหน่อย
นี่ก็ทำทีมสำเร็จตามเป้าเหมือนกัน (อาจมี “ดวง” ผสมอยู่ด้วย)
แต่กระแสฟีดแบ็กความนิยม..กลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!
เรียกว่าถ้า “โค้ชมาโน” ถูกมองเป็นเทวดา
ภาพลักษณ์ของ “โค้ชโย่ง” ก็คงถูกมองตรงกันข้าม.. ไม่ผิดนักหรอก
เจ้าตัวเองก็คงรู้ดีถึงสถานะที่เป็นอยู่ เลยพยายามไม่พูดอะไรเยอะ
ก้มหน้าก้มตาทำงาน (หนัก) ที่ได้รับมอบหมายมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
โดยก่อนหน้านี้ผมได้มีโอกาสพูดคุยสอบถามสารทุกข์สุกดิบกับ “โค้ชโย่ง” โดยตรง
เขาเองก็ยอมรับว่า สงสัย “ดวง” มันจะเป็นอย่างนี้ คือต้องทำงานท่ามกลางเสียงก่นด่าของผู้คนมันไปเรื่อย
ทำดีก็เสมอตัว เมื่อไหร่พลาดขึ้นมาก็ “ทัวร์ลง” อะไรประมาณนั้น!!
ฟังดูก็น่าเห็นใจแกเหมือนกัน เพราะภารกิจที่ “โค้ชโย่ง” กำลังแบกอยู่ ณ เวลานี้ มันทั้งหนักอึ้งและกดดันจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็น มหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2022 ที่เวียดนาม ในช่วงเดือน พ.ค. ต่อด้วยฟุตบอล ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย ที่อุซเบกิสถาน ในเดือน มิ.ย.
ซึ่งล้วนแต่เป็นทัวร์นาเมนต์ที่อยู่ในความสนใจ และ “เป้าโฟกัส” ของแฟนลูกหนังทั้งประเทศ อย่างเลี่ยงไม่ออก
ขณะเดียวกันเมื่อหันมามองการเตรียมทีมเพื่อไปสู่จุดหมายนับจากนี้
ต้องถามผู้หลักผู้ใหญ่ของสมาคมกีฬาฟุตบอลบ้านเราด้วยว่า
ได้ให้นำ้หนักกับความพร้อมของทีมช้างศึก ยู-23 ชุดนี้มากน้อยขนาดไหน?
ความสำเร็จของทีมฟุตบอล บางครั้งจะหวังพึ่ง “โชคชะตา ฟ้าลิขิต” อย่างเดียวคงเป็นไปไม่ได้
องค์ประกอบอย่างอื่น..ยังไงก็ต้องเกื้อหนุนกันให้เต็มที่
ทั้งทีมชาติ สโมสร และสมาคมฯ
จำต้องรวมเป็นหนึ่งเดียว!!!
- บี บางปะกง -