ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ปิดโครงการลงแล้ว...อย่างสมบูรณ์แบบสุดๆ สำหรับกิจกรรม “แคลอรี่เครดิต ฟิตช่วยหมอ” ที่คณะอนุกรรมาธิการกีฬาอาชีพและอุตสาหกรรมกีฬา วุฒิสภา โดยประธานฯ “บิ๊กเปี๊ยก” พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา เป็นหัวหอก
ร่วมกันขับเคลื่อนโปรเจกต์กับทาง นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ศุกรีย์ สุภาวรีกุล และ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง กับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
เพื่อระดมแคลอรีจากการออกกำลังกายมาร่วมสะสมและเปลี่ยนเป็นเครื่องไฮโฟลว์ออกซิเจนมอบให้แก่โรงพยาบาลต่างๆที่ขาดแคลน
โดยกิจกรรมเริ่มออกสตาร์ตมาตั้งแต่กลางปี วันที่ 21 มิถุนายน ถึง 10 สิงหาคม 2564 (50 วัน) ใน EP1 ต่อด้วยวันที่ 11 สิงหาคม ถึง 29 ตุลาคม 2564 (80 วัน) ใน EP2 รวมระยะเวลาทั้ง 2 อีพี 130 วัน
ซึ่งนับได้ว่าเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจริงๆ หลัง มีผู้สนใจเข้าร่วมส่งแคลอรีมาสะสมกว่า 16,000 คน จาก 77 จังหวัด ทั่วประเทศไทย และสามารถสะสมแคลอรีได้กว่า 20 ล้านแคลอรี ในส่วนของผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมจากทั่วประเทศ
สำหรับจังหวัดที่มีผู้เข้าร่วมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ 1.กรุงเทพมหานคร 2.อ่างทอง 3.ชลบุรี 4.ศรีสะเกษ และ 5.สุพรรณบุรี
นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่เข้าร่วมส่งแคลอรีสะสมมาอย่างต่อเนื่องตลอดกิจกรรมกว่า 100 วัน
ซึ่งผู้ที่สะสมแคลอรีได้มากที่สุดมาจาก จ.เชียงใหม่ โดยสะสม ได้มากกว่า 8 แสนแคลอรี เลยทีเดียว
หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมในวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว ทางนายกศุกรีย์และคณะทำงานไม่รอช้าได้ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบังออกเดินทางไปจัดมอบเครื่องไฮโฟลว์ออกซิเจนให้แก่โรงพยาบาลในจังหวัดต่างๆตามเป้าหมายทันที
เริ่มจาก รพ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ที่มอบไปแล้ว 1 เดือนก่อนหน้านี้ ตามด้วย รพ.นาทวี จ.สงขลา ส่งมอบทางขนส่งไปเมื่อวันที่ 21 ต.ค. และล่าสุดอีก 3 โรงพยาบาล ที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งคณะของประมุขเบ่งกล้ามไทยเพิ่งไปมอบให้กับมือสดๆร้อนๆ เมื่อเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา คือ รพ.ด่านมะขามเตี้ย, รพ.มะการักษ์ และ รพ.สมเด็จพระปิยมหาราชรมณียเขต
เรียกว่าโครงการนี้ได้รูดม่านปิดฉากลง โดยบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ทุกประการ
ขณะเดียวกันทางคณะทำงานได้เตรียมจะส่งมอบโครงการแคลอรี่เครดิตให้กับทาง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับไม้เพื่อสานต่อกิจกรรม “แคลอรี่เครดิตชาลเลนจ์” นี้ไปยังภาคส่วนต่างๆของสังคมต่อไป
ก็หวังใจว่าโครงการดีๆที่เกิดขึ้นมาจากวิกฤติโควิด-19 อย่างนี้ จะได้รับการต่อยอดจากผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองของเรา ให้เกิดมรรคผลเป็นรูปธรรม...สืบไปในวันข้างหน้า!!!
ว.ภาวดี