หน้าแรกแกลเลอรี่

เหมาะสมที่สุด

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

31 ส.ค. 2564 05:01 น.

เห็นความสำเร็จของมวยสากลทีมชาติไทยในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ ญี่ปุ่น แม้จะไม่ถึงเหรียญทองแต่เหรียญ ทองแดงประวัติศาสตร์ของ “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี ว่าที่ผู้หมวด ถือว่ามีความหมายและสำคัญอย่างมากกับวงการมวยเสื้อกล้ามไทย

ที่แน่ๆ ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีในเรื่องเหรียญรางวัล หลังจากที่เราว่างเว้นมาแล้วในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ริโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล

นอกจากต้นสังกัดสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ที่เป็นเบื้องหน้าคอยให้การสนับสนุนและผลักดันนักชกทุกคนแล้ว หลังบ้านคนสำคัญ “บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานพัฒนาเทคนิคและเป็นผู้จัดการในชุดโตเกียวเกมส์ ถือเป็นหัวใจหลักที่จะขาดไม่ได้เลย

เรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์รวมของทีมกำปั้นไทยเลยก็ว่าได้ บางคนยกให้เป็นผู้ปิดทองหลังพระตัวจริง ไม่ว่านักมวยจะเจ็บป่วยหรือมีปัญหาอะไรก็ตาม

ขอเพียงบอก “บิ๊กชาย” จะคอยแก้ปัญหาให้หมดไม่เคย ปริปากจนเหล่านักชกยกให้เป็นพ่อคนที่สองไปแล้ว

แอบได้ยินมาว่าหลังจากจบ “โตเกียวเกมส์ 2020” มีสัญญาใจที่บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่จับมือกันไว้ คือจะยกให้ “บิ๊กชาย” มาสานต่อความสำเร็จของ ทีมหมัดไทยด้วยการนั่งเป็นประมุขมวยเสื้อกล้ามอย่างเต็มตัว

ซึ่งเจ้าตัวเองก็รับปากและยินดีจะรับตำแหน่งนี้ เพราะ “กีฬามวย” สำหรับ “บิ๊กชาย” แล้วมันคือเลือดเนื้อและหัวใจ ถึงขนาดบอกว่าในแต่ละวันขอแค่ “ได้กลิ่นน้ำมันมวย” ก็มีความสุขแล้ว

ที่ผ่านมาไม่ว่าว่างเว้นจากงานเมื่อไหร่เป็นต้อง ขับรถไปดูการฝึกซ้อมของทีมกำปั้นไทยที่มวกเหล็กอยู่เสมอ โดยเฉพาะก่อนโอลิมปิกเกมส์ ไปแบบถี่ยิบ เพื่อเติมเต็มและสร้างขวัญกำลังใจให้กับทีมมวย

ถึงวันนี้ไม่แปลกใจเลยที่สมาคมกีฬามวยสากลของไทยจะมีชื่อ “สมชาย พูลสวัสดิ์” เข้ามานั่งเป็นนายกสมาคมฯ บริหารงานต่อจาก “บิ๊กบางจาก” พิชัย ชุณหวชิร

โดยเฉพาะบรรดาสโมสรสมาชิกต่างก็เชื่อใจและมั่นใจว่า “บิ๊กชาย” จะเข้ามาพัฒนาวงการมวยเสื้อกล้ามไทยให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จในระดับนานาชาติ ได้อีกครั้ง

โดยเฉพาะเหรียญทองในเอเชียนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์ ด้วยความเข้าใจหัวอกนักมวยว่าต้องการอะไร และต้องทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ เพราะในอดีต “สมชาย พูลสวัสดิ์” เคยเป็นนักมวยมาก่อน จึงไม่แปลกที่รักกีฬามวยเป็นชีวิตจิตใจ

ตอนนี้ทุกอย่างกำลังเข้าที่เข้าทางและเริ่มเดินหน้าไปตามแนวทางเพื่อความสำเร็จ แถมภารกิจใหญ่ก็เหลือเวลาไม่มากไล่ตั้งแต่เอเชียนเกมส์ ปีหน้า 2564 ที่หางโจว ประเทศจีน ต่อด้วยซีเกมส์ที่เลื่อนมา และสุดท้ายโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่หากนับเวลาดีๆเหลือแค่ 2 ปีกว่าๆ เท่านั้น

ด้วยความตั้งใจจริงของ “บิ๊กชาย” เชื่อว่า ความสำเร็จคงไม่ไกลเกินเอื้อมและชื่อนี้เชื่อว่าเหมาะที่สุดกับสมาคมมวยเสื้อกล้ามไทยเวลานี้.

โจโจ้ซัง