หน้าแรกแกลเลอรี่

ลงโทษให้หนัก

โจโจ้

28 มิ.ย. 2564 05:01 น.

ถือเป็นเรื่องบั่นทอนจิตใจของนักกีฬา ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนออกเดินทางไปร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 กรณี ของ “เจ้าสด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี นักชก เสื้อกล้ามทีมชาติไทย ที่เจอมือดีเข้ามาแฮ็ก ข้อมูลแล้วอ้างเป็นพี่ชายตนเอง

การอ้างเป็นพี่ชายนักมวยคงไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่าไหร่ แต่ดันนำชื่อของ “เจ้าสด” ไปเป็นคนค้ำประกัน ในการกู้ยืมเงินผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นจำนวนเงิน 4,000 บาท นี่น่ะซีทำให้กลายเป็นเรื่องขึ้นมาจนได้

เพราะวันดีคืนดีก็มีเจ้าหนี้มาไล่ทวงเงินตามเฟซบุ๊กของเจ้าสดกับภรรยาทำเอาทั้งคู่ถึงกับงง!

เอ! เราไปค้ำประกันใครตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า แต่เมื่อลองทบทวนอย่างตรึกตรองไม่มี ทั้งคู่ไม่เคยไปเซ็นค้ำให้ใครเลยสักครั้งเดียว

พอเช็กไปเช็กมาถึงได้เห็นต้นตอของเรื่องทั้งหมดมีคนนำครอบครัวของผมไปแอบอ้างกับบริษัท กู้เงินออนไลน์แห่งหนึ่ง โดยแอดมินบริษัทดังกล่าวได้ขอบุคคลค้ำประกัน

จากนั้นคนกู้ก็เนียนเอาเฟซบุ๊กของเจ้าสดกับภรรยาไปแอบอ้าง พร้อมกับบอกว่า เจ้าสดเป็นน้องชายของเขา ซึ่งทางบริษัทเงินกู้เห็นว่าเป็นบุคคลที่มีหลักแหล่งชัดเจน และเป็นนักกีฬาทีมชาติ จึงปล่อยกู้ไป จากนั้นทางบริษัทก็ติดต่อคนกู้ไม่ได้อีกเลย

ฟังแค่นี้ทำให้รู้สึกงงๆ ว่าไอ้บริษัทเงินกู้มันโง่หรือฉลาด เอ!หรือเป็นพวกเดียวกัน

ตามปกติแล้วเวลาจะกู้เงินต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน โดยเฉพาะบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมกับลายเซ็นในการค้ำประกัน แต่นี่แค่โชว์รูปในเฟซบุ๊กแล้วบอกเป็นญาติก็สามารถกู้ได้แล้วหรือ

งั้นแบบนี้อีกหน่อยคงมีคนแอบอ้างเป็นญาติหรือลูกหลานนักการเมืองหรือนักธุรกิจก็สามารถกู้เงิน แล้วหรืออย่างไร บอกเลยผมว่าเรื่องนี้มันฟังดูพิลึกยังไงชอบกล ทุกอย่างมันดูง่ายเกินไป โดยเฉพาะเรื่องของการกู้เงินที่ความจริงแล้วมันต้องยุ่งยากและต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนมากกว่านี้

เอาเถอะครับเรื่องมันผ่านไปแล้วคงจะย้อนเวลากลับคืนมาไม่ได้ โดยเจ้าสดได้มีการไปแจ้งความกับ สภ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้วเพื่อป้องกันไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้นในภายหลัง รวมถึง “น้องจิบ” จุฑารัตน์ บุตรดี ภรรยา ก็ได้เข้าแจ้งความที่ สน.ทองหล่อแล้วเช่นกัน

ต่อจากนี้เรื่องดังกล่าวจะหยุดอยู่แค่นี้หรือได้คนผิดมาลงโทษคงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เกี่ยวข้องทุกคนว่าจะเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน

ยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ข้าวยากหมากแพงคนตกงานเป็นระนาว แถมรายได้ก็ลดน้อยลงไป ก็น่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกในอนาคตหากยังปล่อยไว้โดยไม่สามารถเอาคนผิดมาลงโทษได้

เพราะเชื่อว่า “ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี” คงไม่ใช่คนแรกน่าจะมีคนที่โดนในลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายคน

อย่าปล่อยให้เรื่องนี้ลอยนวล.

โจโจ้