หน้าแรกแกลเลอรี่

“เชียร์ ฟอร์ม โฮม”

บี บางปะกง

24 พ.ค. 2564 06:18 น.

สถานการณ์โควิด-19 ในบ้านเราระลอกนี้ ดูท่าจะหยุดยั้งยากเสียจริงๆครับ

ตราบใดที่วัคซีนยังกระจายเข้าถึงพี่น้องประชาชนได้ไม่มากพอ ตราบนั้นกราฟตัวเลขผู้ติดเชื้อในแต่ละวันก็คงจะพุ่งหัวขึ้นไปเรื่อยๆ

จนยอดผู้ป่วยสะสมแตะไปถึงหลักแสนในอีกไม่ช้าไม่นาน!!

มาตรการป้องกันที่ดูเหมือนจะใช้ได้ผลมากที่สุด ก็คือ Social Distancing หรือ‘การเว้นระยะห่างทางสังคม’

โดยรณรงค์ให้ทุกคน ‘อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ’ และ "WFH" Work From Home หรือ ทำงานที่บ้านตัวเอง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการระบาดทุกช่องทาง

ซึ่งแม้การยกการ์ดสูงด้วยวิธีนี้ จะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่ายที่สุด สำหรับคนที่ไม่ชอบอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน

แต่ยังไงเราก็คงต้องอดทนฝืนกันไปอีกพักใหญ่ๆจนกว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น

ยังดีหน่อยสำหรับแฟนกีฬาชาวไทยที่ในช่วงปลายเดือนนี้ไปจนถึงต้นเดือนหน้า เราจะมี “ทีมชาติไทย” ให้ตามลุ้น ตามเชียร์ กันหน้าจอทีวี อย่างต่อเนื่อง

เริ่มจากแข้งโต๊ะเล็กช้างศึกทีมชาติไทยชุดใหญ่ กับภารกิจเพลย์ออฟ ฟุตซอล โซนทวีปเอเชีย 2 แมตช์ กับ ทีมชาติอิรัก เพื่อชิงตั๋วไปลุยฟุตซอลชิงแชมป์โลก รอบสุดท้าย ที่ลิทัวเนีย

เกมการฟาดแข้ง ไปเล่นสนามเป็นกลางกันที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งทีมไทยชิงความได้เปรียบในนัดแรกไปแล้วในฐานะทีมเยือนด้วยการถล่มชนะอิรักไปอย่างสบายเท้า 7-2

ส่วนแมตช์สอง ไทย จะเป็นเจ้าบ้าน พบ อิรัก อีกครั้ง ในวันอังคารที่ 25 พ.ค.นี้ ตามเวลาบ้านเรา 18.00 น.

ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางเฟสบุ๊กและยูทูปของ FA Thailand , T-SPORTS Channel , และ ฟุตซอลไทยแลนด์

เชื่อว่าเกมนี้ ถ้าฟ้าไม่ถล่ม ดินไม่ทลาย ยังไงซะ ทีมฟุตซอลช้างศึก น่าจะคว้าตั๋วไปลิทัวเนีย ค่อนข้างแน่!!

ที่ต้องลุ้นอย่างเดียวคือเรื่องของสัญญาณถ่ายทอดสดทางโซเชียล ที่เกมแรกสร้างความผิดหวัง (อย่างแรง) ให้กับคอกีฬาทางบ้าน

เพราะมันตำ่กว่ามาตรฐานอย่างเหลือเชื่อมากจนเกินไป

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมุมกล้องที่ดูเหมือนจะถ่ายด้วยกล้องมือถือเพียงตัวเดียวส่ายไปส่ายมาน่าเวียนหัว แถมแสงก็ยังดูมัวๆปวดลูกกะตาอีกต่างหาก

อย่างไรก็ตาม การถ่ายทอดสดในเกมที่ 2 วันอังคารนี้ จะรับผิดชอบโดย ‘ชาจาร์ทีวี’ ของ ยูเออี ซึ่งจะมีรูปแบบการผลิตสัญญาณที่ดูดีมีคุณภาพมากกว่าในเกมแรก ที่เป็นลิขสิทธิ์ของ อิรัก อย่างแน่นอน

และในวันอังคารที่ 25 พ.ค.เช่นกัน หลังจากเชียร์ฟุตซอลจบแล้ว ก็เปลี่ยนโหมดมาเชียร์วอลเลย์บอลกันบ้าง

กับการประเดิมสนามนัดแรกของนักตบลูกยางสาวทีมชาติไทย ในวอลเลย์บอลเนชั่นส์ ลีก 2021 ที่ประเทศอิตาลี ซึ่งเราจะเปิดหัวพบกับญี่ปุ่น ในเวลา 20.00 น.

จากนั้นพุธที่ 26 พ.ค.จะลงเล่นกับเกาหลีใต้ ในเวลา 17.00 น. และปิดท้ายกับสาวจีนแผ่นดินใหญ่ ในวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ค. เวลา 21.00

โดยทุกนัดชมกันสดๆทางช่อง 3 เอชดี (ช่อง 33) อย่างเต็มอิ่ม แบบไม่ต้องซีเรียสอะไรกันมาก เพราะอย่างที่ทราบกันว่าทีมชาติชุดนี้ เป็นทีม “เฉพาะกิจ”ที่เรียกผู้เล่นซูเปอร์สตาร์ชุด 5 เซียนมาเสียบแทนรุ่นน้องที่ติดเชื้อโควิดแบบยกทีม

ดังนั้นสภาพความฟิตของร่างกายและความพร้อมต่างๆจึงย่อมเป็นรองชาติอื่นเป็นธรรมดา

เอาแค่ได้มาบู๊ศึกครั้งนี้เพื่อรักษาสิทธิในการลุยเนชั่นส์ลีกหนต่อไปได้ก็ต้องถือว่าเยี่ยมแล้วล่ะ

จบจาก วอลเลย์บอล แล้ว สัปดาห์หน้า คอลูกหนังบ้านเรา เตรียมตัวกันให้ดี

เพราะถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องลุ้นเชียร์พลพรรคนักเตะทีมชาติไทยชุดใหญ่ ลงบู๊เกือก ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ในอีก 3 นัดที่เหลือ ที่ยูเออี.

โดยโปรแกรมฟาดแข้งแต่ละนัด มีดังนี้ วันพฤหัสบดีที่ 3 มิ.ย.ทีมชาติไทย พบ อินโดนีเซีย วันที่ 7 มิ.ย. 2564 ทีมชาติไทย พบกับเจ้าภาพ ยูเออี. และวันที่ 15 มิ.ย. ทีมชาติไทย พบ มาเลเซีย

ทุกนัด ‘ไทยรัฐทีวี เอชดี ช่อง 32’ จะถ่ายทอดสดให้ชม ในเวลา 23.45 น. โดยเริ่มเข้ารายการตั้งแต่ 23.10 น.เป็นต้นไป

3 นัดนี้ไม่ต้องคิดมาก ถ้าอยากเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายไปลุ้นต่อแบบชัวร์ๆ ก็ต้องชนะรวดเก็บอีก 9 คะแนนเต็ม

หรืออย่างน้อยก็ชนะ 2 เสมอ 1 เพื่อจะมี 7 แต้ม เป็นที่ 2 ของสายแล้วไปวัดกับกลุ่มอื่นเอา

ต้องถือเป็นโจทย์ยากของแข้งช้างศึก ที่ท้าทายความสามารถของคนเป็นกุนซือ “อากิระ นิชิโนะ” อย่างแท้จริง

ช่วยกันส่งแรงใจแบบบวกๆ “เชียร์ ฟอร์ม โฮม”ให้ทีมชาติไทยทุกชุด ทุกกีฬา ไปถึงเป้าหมายของตัวเองให้มากที่สุด

บางที ฟ้าหลังฝน..ของวิกฤติโควิด-19 อาจเป็นใจ ให้กับเราบ้างก็ได้

ใครจะไปรู้ !!!

                                              บี บางปะกง