ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ภายหลังจากที่คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) ที่มี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
ได้ให้ความเห็นชอบโครงสร้างใหม่ของ กกท.
โดยเพิ่มอัตรากำลัง 4 ตำแหน่ง ประกอบด้วย 1.รองผู้ว่าการฝ่ายยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ, 2.ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย 3.ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย 4.ผู้อำนวยการฝ่ายการคลังกองทุน และยังเห็นชอบการจัดแบ่งส่วนงานและการบริหารงานของ กกท. รวมทั้งให้ความ เห็นชอบหลักการในการขอกรอบอัตรากำลังของพนักงาน กกท. 43 ตำแหน่ง ตามร่างโครงสร้างใหม่ ไปเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563
ขณะเดียวกัน เมื่อต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว นายณัฐวุฒิ เรืองเวส ก็ได้ลาออกจากตำแหน่งรองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ ไปทำหน้าที่นายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย กีฬาที่ตนเองชื่นชอบ
ทำให้ “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ต้องสรรหารองผู้ว่าการ กกท.ใหม่ ถึง 2 คนในคราวเดียวกัน
มี พล.อ.อมรฤทธิ์ แพทย์เจริญ เป็นประธานกรรมการพิจารณาสรรหา คัดเลือกพนักงาน เพื่อเสนอให้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการ กกท. นักบริหารระดับ 10
หลังจากเปิดรับสมัครนักบริหาร ระดับ 9 ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้อำนวยการสำนัก หรือตำแหน่งอื่นที่เทียบเท่าไปเมื่อวันที่ 8-19 มีนาคม 2564
ปรากฏว่า มียื่นใบสมัครรวมทั้งหมด 6 คน สมัครรองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย 2 คน ส่วนรองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ มียื่นใบสมัคร 4 คน จากนั้นเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติ ทดสอบภาษาอังกฤษ และแสดงวิสัยทัศน์
แล้วคณะกรรมการนำรายชื่อเสนอ ดร.ก้องศักด พิจารณาเพื่อนำเสนอไปยังบอร์ด กกท.
ก่อนที่ที่ประชุมบอร์ด กกท. เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 จะเห็นชอบแต่งตั้งให้นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย
และนางโปรดปราน สมานมิตร ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการฝ่ายยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
ให้มีผลตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา
แน่นอนว่า คงมีหลายคนสงสัยเป็นแน่แท้ว่า ทำไม กกท. ต้องปรับโครงสร้างใหม่ ทำไมต้องเพิ่มตำแหน่งรองผู้ว่าการ กกท. คนที่ 5 เข้าไป
ฮอตสปอร์ตไม่รอช้า สอบถามไปยัง “รองตั๋ว” นางโปรดปราน รองผู้ว่าการ กกท.ป้ายแดงได้ความว่า ต้องยอมรับว่าปัจจุบัน กกท.มีภารกิจที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ การเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจของประเทศด้วยกีฬา อย่างเช่น สปอร์ตทัวริซึมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา
ที่มีหลายกีฬา อย่างวิ่งและจักรยานเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนทั้งด้านกีฬา ในการจัดการแข่งขัน และด้านเศรษฐกิจ ในการช่วยดึงนักกีฬาต่างประเทศเข้ามา สร้างเงินหมุนเวียนให้ประเทศเป็นจำนวนไม่น้อย
ทำให้ กกท.มีการปรับโครงสร้าง เพิ่มตำแหน่งนี้ขึ้นมา
ทั้งนี้ นอกจากตนจะได้รับมอบหมายให้ดูยุทธศาสตร์ แผนงานในภาพรวมของ กกท. แล้ว ยังมีงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ต้องทำควบคู่กันไปด้วย
เรื่องนี้ ก็เป็นอีกข้อที่น่าสนใจ เพราะเข้ากับยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี มีการสื่อสารตามแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆกันอย่างต่อเนื่อง
เทคโนโลยีตรงนี้ กกท.ก็จะนำมาใช้ประโยชน์ ช่วยขับเคลื่อนงานด้านกีฬาเข้าถึงประชาชนอีกทาง
ขณะที่ “รองน้อย” นายทนุเกียรติกล่าวว่า การเข้ามาทำหน้าที่นี้ ถือเป็นเนื้องานเดิมจากเมื่อครั้งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย
2 งานนี้ ตนพร้อมจะดำเนินงานตามนโยบายของทั้งบอร์ดกีฬาอาชีพ และบอร์ดกีฬามวย
ซึ่งหลักๆแล้ว ก็จะดูงานพัฒนากีฬาอาชีพ ที่คงจะต้องเน้นให้มากขึ้นกับกีฬาที่เป็นอาชีพจริงๆ อย่างเช่น ฟุตบอล วอลเลย์บอล กอล์ฟ และเทนนิส
ส่วนกีฬาอาชีพอื่น ก็จะเร่งพัฒนาให้ดีที่สุด ให้พร้อมที่สุดต่อไป
ขณะที่เนื้องานด้านกีฬามวย ปัจจุบันถือว่าโดดเด่นขึ้นมามาก ขยายวงกว้างไปทั่วโลก ก็จะได้ดำเนินการจัดทำมาตรการกีฬามวยให้เป็นหนึ่งเดี่ยว เป็นมาตรฐานเดียว
ทั้งการสร้างมาตรฐานค่ายมวย มาตรฐานผู้ตัดสิน มาตรฐานผู้ฝึกสอน เป็นต้น
สำหรับงานด้านธุรกิจสิทธิประโยชน์ ตามชื่อเดิมนั้น ก็ถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญตามโครงสร้างใหม่ งานนี้จึงถูกนำไปอยู่กับรองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายส่งเสริมกีฬา
เรียกได้ว่า เวลานี้ กกท.มีรองผู้ว่าการ กกท. ทั้ง 5 คน นอกจากรองผู้ว่าการ กกท. 2 คนใหม่ ยังมีนายวิษณุ ไล่ชะพิษ รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายบริหาร, พันโทรุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการ กกท.ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา และนายราเชลล์ ได้ผลธัญญา รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายส่งเสริมกีฬา
ที่จะมาช่วยงาน “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด แบบพร้อมหน้าแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานตามโครงสร้างใหม่ อย่างเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์กับงานกีฬามวย กีฬาของชาติที่ต้องขยายตัวไปทั่วโลก เป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียว
เพราะถ้าทำให้เกื้อหนุน สอดรับซึ่งกันและกันได้ จะช่วยผลักดัน กกท.ให้เข้าสู่กีฬายุคใหม่
ได้แบบเต็มตัว...
กัญจน์ ศิริวุฒิ เรื่อง