เบี้ยหงาย
นับเป็นข่าวดีของคนกีฬาลูกหนังอาชีพ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก และยาวนานกับพิษโควิด-19 ตั้งแต่ ปีก่อนยันปีนี้ เรียกว่าในฤดูกาล 2020 ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไปถึง 2 ครั้ง แข่งได้คนก็เข้าดูไม่ได้ รายได้ก็เป็นรายไม่ได้ ยังไม่นับถึงสปอนเซอร์ต่างๆที่ฝืดเคือง ส่งผลตรงต่อสโมสร นักเตะ รวมถึงเจ้าหน้าที่ในองคาพยพต่างๆของฟุตบอลอาชีพโดยถ้วนหน้า
เมื่อทางการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยผู้ว่าการ ก้องศักด ยอดมณี ออกมาแจ้งข่าวการช่วยเหลือเพิ่มเติมจากการเยียวยานักกีฬาและบุคลากรอาชีพ ที่บอร์ดกองทุนพัฒนาการกีฬาฯ อนุมัติเงินช่วยเหลือคนละ 5,000 บาทต่อเดือน รวม 3 เดือนไปแล้วนั้น ขั้นตอนต่อไปจะลงไปถึงสโมสรแล้ว
โดย “ผอ.น้อย” ทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผอ.ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย หนึ่งในตัวเต็งรองผู้ว่าการ กกท. ระบุว่า ต่อจากการช่วยนักกีฬาแล้ว ลำดับต่อไปจะเป็นฝ่ายจัดการแข่งขัน และต้นสังกัด
สำหรับกรอบวงเงิน 180 ล้านบาท ตามแผนการขอความช่วยเหลือวงการฟุตบอล ที่คณะกรรมการกีฬาอาชีพได้เสนอต่อคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ไว้นั้นจะมีการพิจารณาในการประชุมวันที่ 24 มี.ค.นี้ ซึ่งจะแบ่งช่วยเป็น 2 ส่วน คือ 1.ให้กับผู้จัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ อาทิ การจัดแข่งขัน, ค่าตอบแทนบุคลากร, ค่าตอบแทนผู้ตัดสิน และ 2.ช่วยเหลือสโมสร โดยให้สโมสรยื่นเรื่องเสนอขอรับการช่วยเหลือเข้ามา โดยเพดานของการช่วยเหลือจะลดหลั่นกันไป จากไทยลีก 1-3 จำนวน 3 ล้าน, 2 ล้าน และ 1 ล้านตามลำดับ
ก็รอบอร์ดกองทุนฯเคาะกันในขั้นสุดท้าย ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไรอีกแล้ว จากนั้นก็รอรับเงินตามที่จัดสรรไปแก้ขัดกันได้ ช้าหน่อยแต่ก็ยังดีที่มีการช่วยเหลือกัน
นี่คือเงินของทางการที่หยิบยื่นมาช่วยเหลือ!
ส่วนเงินของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในรูปของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดและรายได้ต่างๆที่มีการเซ็นสัญญากับเอกชน ไม่ว่าจะเป็นก้อนเก่าที่มีปัญหาคาราคาซัง หักลดจากสัญญาที่เปลี่ยนแปลง หรือก้อนใหม่ที่เซ็นกันยาว 8 ปี ตั้งแต่ปี 2021-2028 เป็นจำนวนเงินมหาศาล ตัวเลขจากการแถลงข่าวที่ประกาศ กันปีละ 1,500 ล้านบาทแบ่งเป็นค่าลิขสิทธิ์ปีละ 1,200 ล้านบาท และค่าถ่ายทอดสดปีละ 300 ล้านบาท
รวมถึงสมาคมกีฬาฟุตบอลฯก็ได้บริษัทตัวแทนบริหารสิทธิประโยชน์อย่างเป็นทางการ ทำหน้าที่จัดหาผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬาฟุตบอลทีมชาติ การแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ และกิจกรรมฟุตบอลอื่นๆ รวมทั้งสิทธิทั้งหลายตามประกาศของสมาคม ตั้งแต่ปี พ.ศ.2564-2571
ผลประโยชน์ตรงนี้กับการจัดสรรให้กับสโมสรต่างๆเป็นจำนวนเท่าไหร่ อย่างไร และจะได้กันในลักษณะใด สโมสรต่างๆได้ของเก่ากันไปบ้างแล้วหรือยังก็น่าจะเปิดเผยให้สังคมได้รับรู้กันบ้าง
แต่เมื่อเดือนก่อนดูเหมือนเพิ่งจะมีมติจากสภากรรมการสมาคมอนุมัติหลักการในการให้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาการจัดสรรเงินสนับสนุนสโมสรสมาชิก จากค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลลีกอาชีพ ฟุตบอลทีมชาติ ฟุตซอล และฟุตบอลชายหาด ขึ้นมาชุดหนึ่ง นั่นก็คงบ่งบอกได้ว่ายังไม่มีไอเดียในการจัดสรร ด้วยคณะกรรมการชุดนี้ยังไม่มีตัวบุคคลออกมา ดูแล้วก็คงต้องใช้เวลาอีกนานพอควร
ว่าไปแล้วต้องยกนิ้วให้กับสโมสรฟุตบอลอาชีพเมืองไทยที่มีน้ำอดน้ำทนสูงมาก เข้าใจสถานการณ์ ไม่มีการโวยวายเรียกร้องอะไร ดิ้นรนกันไปแบบเงียบๆ และก็ต้องถือเป็นบุญของสมาคมกีฬาฟุตบอลยุคฯนี้ ที่มีสมาชิกดีๆเช่นนี้
ก็หวังจะได้เม็ดเงินคุ้มค่ากับที่รอคอย มาช้าดีกว่าไม่มา คิดกันอย่างนี้สบายใจดีครับ...
“เบี้ยหงาย”