ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ประเทศไทยของเราเข้าสู่หน้าร้อนอย่างเป็นทางการมาสักพักใหญ่ๆแล้ว แต่ดูเหมือนว่าอุณหภูมิจะพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
วันก่อนเห็นข่าวกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ความคิดแว้บแรกของผมคือ นักวิ่งทั้งหลายคงได้รับผลกระทบเป็นแน่
วันนี้ผมจึงนำบทความจากเพจ Avarin Running and Triathlon ซึ่งเขียนโดย “หมอแอร์” นายแพทย์อกนิษฐ์ ศรีสุขวัฒนา มีประโยชน์โดยตรงในช่วงนี้เป็นอย่างยิ่ง ลองอ่านกันดูครับ
เริ่มหน้าร้อนแล้ว ต้องปรับการวิ่งยังไงบ้าง
เมื่อวานผมลงซ้อมเข้าตารางวันแรก Interval. 200 12 set. 3.35 วิ่งแต่ละช่วงต้องยอมพักยาว เพราะหัวใจสูงมากและเหนื่อยกว่าปกติ
อากาศช่วงนี้ร้อนขึ้นมากครับ หน้าร้อนมาแล้วแน่ๆ
เราจะรู้สึกว่าเราวิ่งตกลง เหนื่อยง่ายขึ้น นักกีฬาบางท่าน Inbox ถามทำไมความฟิตลด นั่นเพราะ ความร้อนมีผลต่อการซ้อม performanceความเร็ว การพักฟื้นร่างกาย รวมถึง Running Economy ที่ต่ำลง (ร่างกายต้องใช้พลังงานมากขึ้นที่เพซเดิม) และหัวใจต้องทำงานหนักขึ้น ทำให้ HR สูงขึ้นกว่าปกติที่ความเร็วเดิมของการซ้อมในช่วงอากาศไม่ร้อน
ผมแนะนำออกกำลังสำหรับหน้าร้อน เราควรให้ความสำคัญ อะไรบ้างเพิ่มเติม
1.ถ้าทำได้ให้ถอยเวลาซ้อมไปอีก 30 นาที เพื่อได้อุณหภูมิที่ต่ำลงครับ เมื่อวาน 5 โมงเย็นอุณหภูมิ 35 องศาเลย เริ่มสัก 5.30 จะช่วยได้เยอะ หรือออกช่วงเช้าไปเลยดีกว่า
2.load น้ำ ก่อนซ้อมได้เลย ทยอยดื่มสัก 500ml ก่อนซ้อมมีน้ำ เตรียมน้ำไว้ดื่ม ตามจุดรอบวิ่ง และ cool down ร่างกายได้ในกรณีร้อนมากๆ
3.อย่างน้อย 2-2.5 โล ดื่มน้ำครั้งนึง ไม่ควร อดน้ำนานเกิน 30 นาที และหลีกเลี่ยงการซ้อมอดน้ำ
4.การทำ interval. นานๆแวะดื่มน้ำ ตอน jog ได้สั้นๆ ป้องกันแรงตกจากการขาดน้ำ
5.เหงื่อจะออกมากกว่าเดิม เกลือแร่ก็เสียมากกว่าเดิม น้ำดื่มเกลือแร่มีความจำเป็นในการซ้อมมากขึ้นครับ
6.เสื้อผ้า ใช้เสื้อผ้าที่ระบายอากาศดีๆนะครับ
7.ถ้ามีอาการปวดศีรษะขณะวิ่ง ตัวร้อนแต่เหงื่อไม่ออก ให้หยุดออกกำลังทันที เพราะอาจเป็นอาการเริ่มต้นของ heat stroke
สุดท้ายเพิ่มความรู้สึกในการวิ่งให้มากขึ้นอย่าไปทำความเร็วตามตารางเกินไป เพราะความสามารถออกกำลังในอากาศร้อนจะต่ำลงครับ
ถ้าไม่ไหวอย่าฝืนจนเสี่ยงเกิดอันตรายครับ.
ยุบสภา