ตองเจ
ได้เห็นข่าว “ดีเจชื่อดัง” ไปจัดปาร์ตี้ จนทำให้เกิดการติดเชื้อโควิด บอกเลย รู้สึกหดหู่และควันออกหูขึ้นมาทันที
เพราะช่วงนี้ภาครัฐรวมถึงทุกภาคส่วนกำลังช่วยกันรณรงค์ป้องกันเพื่อไม่ให้ไวรัสโควิด-19 มีการแพร่ระบาดไปมากกว่านี้
ใครที่เห็นยอดตัวเลขการแพร่ระบาดของโควิด ในทั่วโลก ต่างก็ต้องตกใจด้วยกันทุกคน เพราะไม่ใช่ แค่หลักร้อยหลักพันหรือหลักหมื่น แต่มันทะลุหลักล้านไปแล้ว ยังไม่รวมถึงผู้เสียชีวิตอีกมากมาย
โควิดไม่ใช่เรื่องเล่นๆที่เราทุกคนจะมองข้ามหรือประมาท แต่มันคือมหันตภัยที่ร้ายแรง หรือไวรัส มรณะที่คอยคร่าชีวิตทุกคนหากใช้ชีวิตอย่างประมาท โดยไม่มีการระมัดระวัง
ขณะที่ไทยเองหากมองย้อนกลับไปถึงการติดเชื้อ หนแรกที่ภาครัฐสามารถควบคุมได้อย่างรวดเร็วจนเป็นที่ยอมรับและกล่าวขานจากทั่วโลกว่ายอดเยี่ยม
แต่การแพร่ระบาดรอบสองบอกเลยน่าเป็นห่วง อย่างมาก ส่วนหนึ่งเพราะทุกคนขาดความรับผิดชอบและมีความเห็นแก่ตัว ดังที่ผมยกไว้ตั้งแต่แรกถึงกรณีของ “ดีเจดัง” ที่ยังฝ่าฝืนจัดปาร์ตี้ในช่วงนี้
ขณะที่ทุกคนพยายามช่วยกันป้องกันอย่างหนัก แล้วแบบนี้จะไม่ให้ทุกคนโมโหได้อย่างไร จริงๆแล้วเรื่องนี้ควรต้องมีบทลงโทษที่หนักหน่วงเพื่อเป็นกรณีตัวอย่างไม่ให้คนอื่นกระทำแบบนี้
เรื่องนี้ก็อยากฝากถึงคนวงการกีฬาที่ช่วงนี้ยังทำอะไรไม่ได้มากนัก จะซ้อมก็ไม่ได้ จะแข่งขันก็ยังไม่มี เพราะสถานการณ์ยังรุนแรง คงทำได้เพียงเก็บตัวอยู่กับบ้าน
เข้าใจดีอยู่ว่าคนดีก็มีเยอะแต่คนที่ชอบนอกกรอบกลับเยอะกว่าอย่างเช่น “ดีเจดัง” ตามที่เป็นข่าว คนเราขอเพียงมีจิตสำนึกที่ดีและมีความรับผิดชอบในตัวเองเรื่องเลวร้ายจะไม่เกิดขึ้น
ไม่แปลกใจที่ทำไมเมืองไทยถึงมีแต่เรื่องที่แย่ๆ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่มีวินัยในตัวเอง
ตอนนี้วงการกีฬาไทยทำอะไรก็ลำบากเพราะต้องว่ากันในเรื่องกฎกติกาอย่างเคร่งครัดเพื่อให้เจ้าโควิดผ่านพ้นไปด้วยดี เลยอาจทำให้บางคนหลงผิดคิดไปในทางที่ไม่ดี ไม่ว่าเรื่องยาเสพติด หรืออื่นๆ
ชั่วโมงนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าการมีจิตสำนึกในตัวเองการรับผิดชอบต่อสังคม และการมีวินัยในตัวเอง ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นสิ่งที่ต้องร่วมมือกัน
หากเราประพฤติปฏิบัติและรักษากฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เชื่อว่าอีกไม่นานเราจะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้.
ตองเจ