ฟ้าคำราม
ถ้าคนไม่รักจริง ทำไม่ได้แน่นอนสำหรับ “บิ๊กตูน” ณัฐวุฒิ เรืองเวส ที่ลงทุนลาออกจากตำแหน่งใหญ่ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อมาทำหน้าที่เป็นนายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสฯกีฬาที่ตัวเองผูกพัน และรักมาก
โดยหวังที่จะเข้ามาพัฒนา ยกระดับกีฬาชนิดนี้อย่างจริงจัง สานต่อจาก “เฮียเต็ก” พีรเดช พฤฒิพฤกษ์ นายกคนเดิม ที่เสียชีวิตกะทันหันไปก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ นายกลูกเด้งคนใหม่ วางแผนสร้างกีฬาปิงปองไทยให้ก้าวไกลไว้อย่างน่าสนใจ
แบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ทั้งในระดับประชาชน ระดับเยาวชน กลุ่มความหวังอายุต่ำกว่า 10 ปี และกลุ่มนักกีฬาอาวุโส
ไม่เพียงแค่นักกีฬา ยังหมายถึงการพัฒนาบุคลากรเข้าสู่สหพันธ์กีฬาทั้งในระดับอาเซียน เอเชีย และระดับโลก รวมไปถึงการพัฒนาผู้ตัดสินอีกด้วย
สำหรับการพัฒนาในระดับประชาชน ซึ่งจะเป็นในส่วนของทีมชาติชุดใหญ่ หากฝึกซ้อมแบบปกติธรรมดา ก็อาจจะได้ผลในระดับหนึ่งเท่านั้นแต่ถ้าจะให้โกอินเตอร์ ก็อาจจะไม่เพียงพอ
ดังนั้น หากมีโอกาส และเมื่อปัญหาโควิด–19 คลี่คลาย พร้อมที่จะผลักดันให้นักเทเบิลเทนนิสชุดใหญ่ไปเล่นอาชีพในลีกต่างๆนอกประเทศให้มากที่สุด
เพราะพวกเขาจะได้เจอแต่ยอดฝีมือ ได้มีการพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา อันจะมีผลต่อการกลับมารับใช้ทีมชาติไทย เข้าแข่งขันรายการต่างๆ
ในส่วนของการพัฒนาระดับเยาวชนทีมชาติ หากมีโอกาส จะผลักดันให้เยาวชนไทยไปฝังตัวฝึกซ้อมกับทีมชาติชุดใหญ่ที่ไปเล่นอาชีพต่างแดนกับสโมสรต่างๆ
และกลุ่มความหวัง อายุต่ำกว่า 10 ปี นอกจากจัดการชิงชัยปกติภายในประเทศแล้ว ยังจะมีการเพิ่มการแข่งขันในรูปแบบเบสิกเข้าไปด้วย
ก่อนที่น้องๆดาวรุ่งกลุ่มนี้จะก้าวขึ้นไปในระดับที่สูงขึ้น อันจะส่งผลดีในระดับทีมชาติไทยต่อไปในอนาคต
ทั้งหมดนี้ นับเป็นมิติใหม่ของวงการกีฬาตบลูกเด้งไทย เป็นการมองการณ์ไกลที่ไม่เหมือนคนอื่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การผลักดันทั้งชุดใหญ่ให้ไปเล่นอาชีพต่างประเทศ และให้เยาวชนไปฝังตัวกับรุ่นพี่
ที่สำคัญ ยังมีการจัดการแข่งขันในเรื่องของเบสิก ซึ่งจะทำให้นักปิงปองรุ่นใหม่มีพื้นฐานการเล่นที่แน่น อันจะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กีฬานี้อย่างแท้จริงคล้ายๆกับการติดกระดุมเสื้อ ถ้าติดเม็ดแรกถูก เม็ดต่อๆไปก็ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าเริ่มต้นผิด ก็ไม่มีทางที่เม็ดต่อไปจะถูกต้อง...
ฟ้าคำราม