“มาราธอน” ของทุกคน

ตัวเลขพุ่งสูงปรี๊ดขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการระบาดรอบใหม่ของไวรัสมหาภัย โควิด-19 ในเวลานี้ ทำให้ ศบค.ประกาศมาตรการเข้ม ให้แต่ละจังหวัด “ล็อกดาวน์” ตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายจนเอาไม่อยู่ไปมากกว่านี้

สำหรับ “วงการกีฬา” ก็เหมือนกัน ตอนนี้ที่เจอผลกระทบเข้าไปเต็มๆก็คือ “ฟุตบอล” ที่ล่าสุด บ.ไทยลีก ประกาศเลื่อนการแข่งขันเดือน ม.ค.ออกไปอย่างน้อย 1 เดือนเต็ม

ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชากรลูกหนังของเรามากน้อยเพียงใด? ความจริงควรเตะแบบ “ปิด” เหมือนอย่างลีกในยุโรปจะดีกว่ามั้ย?

ไว้เราค่อยมาถกกันต่อ ในพื้นที่ “ตะลุยฟุตบอลโลก” วันต่อไปแล้วกันนะครับ!!

ส่วนวันนี้ผมขอเขียนถึงบทสรุปของงานวิ่งมาราธอนรายการเก่าแก่ของเมืองไทย “จอมบึงมาราธอน ครั้งที่ 36” ซึ่งปลายสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งตัดสินใจเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแข่งขันเป็นปีแรกเพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤติโควิด

โดยฝ่ายจัดจะปรับการแข่งขันมาเป็นแบบ “Virtual Run” โดยเริ่มกิจกรรมกันตั้งแต่ 16-17 ม.ค.นี้ เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย

แต่ปรากฏว่างานนี้เจอกระแสคัดค้านจากบรรดานักวิ่งที่ลงทะเบียนสมัครล่วงหน้าไปแล้วกว่า 15,000 คน ที่ต่างไม่เห็นด้วยที่จะให้จอมบึงมาราธอนเปลี่ยนมาวิ่ง “เวอร์ชวล รัน”

เพราะมองว่าเป็นการตัดสินใจที่ง่ายเกินไป ความจริงทางจอมบึงน่าจะ “เลื่อน” การแข่งขันออกไปน่าจะเหมาะสมกว่า
เนื่องจากเหตุผลหลักของนักวิ่งที่ต้องการมาร่วมงานจอมบึงมาราธอน

คืออยากมาสัมผัสมนต์เสน่ห์ของสนามแห่งนี้ อยากมาเห็นวิถีชาวบ้านที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำให้สนามวิ่งในอำเภอเล็กๆครองใจชาวปอดเหล็กบ้านเรามาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ

ดังนั้น การจัดวิ่งเวอร์ชวล รัน แบบบ้านใคร บ้านมัน จึงไม่น่าจะตอบโจทย์เท่าใดนัก ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองยามนี้จะเป็นอย่างไรก็ตาม

สรุปว่านักวิ่งส่วนใหญ่ยินดีที่จะร้องเพลง “รอ” ไม่ว่าจะนานแค่ไหน

ไว้รอให้ทางจอมบึงพร้อมเมื่อไหร่ค่อยประกาศจัดเมื่อนั้น พวกเขาก็ยินดีไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

ซึ่งกระแสที่ตอบกลับมาในโลกโซเชียลอย่างชนิด “ทัวร์ลง” ในคราวนี้ ทาง อ.ณรงค์ เทียมเมฆ โต้โผใหญ่ของงาน มิได้นิ่งดูดายและทำการเปิดโต๊ะประชุมพิจารณาหาบทสรุปของงานจอมบึงมาราธอนกันใหม่อีกรอบ

โดยล่าสุดได้จุดลงตัว ที่ทุกคนน่าจะพอใจ (ที่สุด) กันแล้ว

นั่นคือ “จอมบึงมาราธอน 2021” ตกลงจะจัดควบคู่กันไป 2 แบบ ทั้ง “Virtual Run” และจัดแข่งขันจริงตามเดิมแต่ต้อง “เลื่อน” ออกไปจนกว่าสถานการณ์โควิดจะคลี่คลาย

สำหรับผู้สมัครที่ประสงค์จะวิ่งเวอร์ชวล รัน สามารถเข้าร่วมกิจกรรมกับระบบ VR@CBM 2021 ได้เลย โดยมีระยะเวลาการวิ่งสะสมระยะทางตลอดทั้งปี 2564 นี้แบบไม่จำกัด

ซึ่งนักวิ่งจะได้รับ “เหรียญผู้พิชิต” ตามระยะทางที่สมัคร และ “เสื้อ Finisher” สำหรับผู้จบมาราธอน ส่งให้ถึงบ้าน

ส่วนนักวิ่งที่ประสงค์จะรอคอยการแข่งขันในสนามจริง ทางฝ่ายจัดก็จะหาช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการจัด “จอมบึงมาราธอน ครั้งที่ 36” ในปีนี้ โดยพยายามให้กระทบกับปฏิทินการวิ่งของงานประจำรายการต่างๆในรอบปีให้น้อยที่สุด

แต่ถ้าปีนี้ทั้งปียังหาวันจัดไม่ได้จริงๆ หรือสถานการณ์โควิดยังไม่คลี่คลาย ทางฝ่ายจัดก็คงจำเป็นต้องยกยอดไปจัดงานกันใหม่ในปีหน้า 2565

และผู้ที่สมัครไว้แล้วในครั้งนี้ ก็ยังจะได้สิทธิเข้าร่วมวิ่งแน่นอนในปีต่อไป

ซึ่งรายละเอียดและความเคลื่อนไหวอื่นๆทางฝ่ายจัดจะทยอยแจ้งให้ทราบอีกทีทางแฟนเพจ FB : Chombueng Marathon

ทั้งหมดนี้ตอกย้ำว่า อ.ณรงค์ และฝ่ายจัดจอมบึงให้ความสำคัญกับทุกความเห็นและข้อเสนอแนะของเพื่อนนักวิ่งทั่วประเทศ

เพราะทุกคนตระหนักดีว่าสถานะของ “จอมบึงมาราธอน” ในเวลานี้ ไม่ใช่มาราธอนของใคร? คนใดคนหนึ่ง

แต่นี่คือ “มาราธอน” ของทุกคน...อย่างแท้จริง!!!

บี บางปะกง