หน้าแรกแกลเลอรี่

ถึงมือ...พี่ศรี

เบี้ยหงาย

14 ก.ย. 2563 05:01 น.

นานๆทีเรื่องในแวดวงกีฬาจะได้รับเกียรติในการร้องเรียนจาก “นักร้อง” มืออาชีพ จึงเป็นกรณีที่น่าสนใจไม่น้อยเมื่อ “พี่ศรี” ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จับเอาเรื่องของการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติมาเป็นประเด็น

โดยยกเหตุที่มีคณะผู้บริหารทั้งส่วนกลาง วิทยาเขต และโรงเรียนกีฬา สังกัดมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ รวมกลุ่มกันไปยื่นหนังสือต่อ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อสอบถามและคัดค้านรายชื่อบุคคลที่ผ่านการสรรหาตามกฎหมาย ซึ่งจะต้องเสนอต่อสภามหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามขั้นตอน

ซึ่ง “พี่ศรี” ตั้งข้อสังเกตว่า การแสดงออกของกลุ่มบุคคลดังกล่าวอาจมีเบื้องหลังหลายประการ เนื่องจากคณะกรรมการสรรหาฯได้ดำเนินการตามมาตรา 93 พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ 2562 และตามประกาศคณะกรรมการสรรหาอธิการบดีฯ อย่างถูกต้องแล้ว และคณะกรรมการยังไม่มีการแจ้งรายชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี คณะผู้ร้องเรียนจะรู้ล่วงหน้าได้อย่างไร ยังอยู่ในชั้นความลับ การเปิดรายชื่อ 3 รายของผู้ร้องเรียน ไม่ทราบว่าเป็นข้อมูลจริงหรือเท็จ และสามารถอ้างอิงแหล่งข้อมูลได้หรือไม่

นอกจากนี้ยังมีประเด็นปลีกย่อยถึงวันเวลาที่ไปยื่นเรื่อง มีการขออนุมัติเดินทางไปราชการอีกจังหวัดหนึ่งด้วย แต่กลับมายื่นเรื่องที่กระทรวง โดยระบุว่า สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะไปยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในวันที่ 14 ก.ย. เพื่อขอให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนในเรื่องนี้ด้วย และเร่งให้ประธานคณะกรรมการสรรหาฯ เสนอชื่อผู้ที่ผ่านการสรรหาให้สภามหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติมีมติต่อไป

มหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการหลังจากราชกิจจานุเบกษาออกประกาศ เมื่อ 22 พ.ค.2562 ให้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ.2562 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.2562 เป็นต้นไป จริงๆแล้วก็มีพัฒนาการมาจากวิทยาลัยพลศึกษา และสถาบันการพลศึกษามาตามลำดับ

การที่ประเทศไทยจะมีมหาวิทยาลัยด้านกีฬาเป็นการเฉพาะนั้น มองเผินๆก็ถือเป็นเรื่องดี สะท้อนถึงการพัฒนาและยกระดับด้านกีฬาของชาติ ที่ผ่านมา ในช่วงของรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหารภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งนั้น โดยมี สปช.ด้านกีฬา เข้ามาศึกษาดูแล ก็เคยยกเอาการก่อเกิดมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติเป็นผลงานด้านกีฬาอย่างเต็มภาคภูมิ

แต่เมื่อกำเนิดขึ้นจริงๆแล้ว ความเปลี่ยนแปลง การยกระดับ พัฒนาคนกีฬา และวงการกีฬาในเชิงโครงสร้างทั้งระบบ จะเป็นประโยชน์และเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่

หรือเป็นเพียงแค่การเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนสถานะ ปรับองค์กร ยกระดับตำแหน่งเฉพาะบุคคล และได้งบฯมากขึ้น ก็ยังเป็นสิ่งที่คาใจและข้องใจในวงการกีฬา!

ภาพของการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง วางโครงสร้าง จัดองค์กร เพื่อให้ระบบการศึกษาด้านกีฬา การพัฒนาบุคลากรด้านกีฬาที่มีประสิทธิภาพ การต่อยอดกีฬาในเชิงอาชีพ ธุรกิจ และการผลิต การก่อเกิดของวิทยาการกีฬาใหม่ๆ ในมิติต่างๆ เพื่อผลักดันและยกระดับให้กีฬาไทยทัดเทียมกับประเทศชั้นนำด้านกีฬา แทบไม่ปรากฏต่อสังคม

มีแต่ภาพของการเกาะกลุ่ม แตะมือปกป้องผล แย่งชิง ซึ่งก็ล้วนเป็นคนเดิมๆที่เวียนว่ายอยู่ในวังวนนี้ทั้งสิ้น

เมื่อถึงมือพี่ศรีแล้ว หวังว่าจะตามติด และไม่เงียบ รอดูว่าจะลุกลามไปถึงไหน...

“เบี้ยหงาย”